เชียงราย - ตำรวจท่องเที่ยว-ขนส่งเชียงรายเรียกผู้บริหารบริษัทนิวเชียงใหม่ทราเวลฯ-โชเฟอร์ทัวร์ตีนผี ตักเตือน/จ่ายค่าปรับ หลังเร่งเครื่องฝ่าเส้นทึบบนถนนท่องเที่ยวสายเชียงราย-เชียงใหม่ ตั้งแต่หน้าด่านตรวจแซงดะนับสิบๆ คัน
วันนี้ (14 ส.ค.) พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กก.2 บก.ท่องเที่ยว 2 พร้อมด้วยตัวแทนนายสตวัน มะโนเครื่อง ขนส่งจังหวัดเชียงราย ได้เชิญตัวผู้บริหารบริษัทนิวเชียงใหม่ทราเวล จำกัด และคนขับรถทัวร์โดยสารของบริษัทหมายเลขทะเบียน 30-3721 เชียงใหม่ เข้าให้ปากคำดำเนินคดีที่สำนักงานขนส่ง จ.เชียงราย
หลังมีการแชร์คลิปรถทัวร์ของบริษัทคันดังกล่าวที่ขับแซงตรงจุดห้ามแซงและเป็นทางโค้งบนถนนหมายเลข 118 สายเชียงราย-เชียงใหม่ พื้นที่บ้านโป่งปูเฟือง หมู่ 1 ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เวลาประมาณ 13.00 น.เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ส.ค. ผ่านโซเชียลมีเดีย และมีการแชร์ต่อในกลุ่มไลน์ต่างๆ อย่างแพร่หลาย และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะเป็นการขับรถที่เสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ เป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ พบว่านายชาญชัย แซ่ลี่ อายุ 24 ปี ผู้จัดการบริษัทดังกล่าว พร้อมด้วยนายฉลอง ปัญญาดี อายุ 63 ปี คนขับรถทัวร์คันที่ปรากฏในคลิป ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ด้วยดี พร้อมยอมรับว่ารถทัวร์ที่ปรากฏในคลิปเป็นของบริษัท และนายฉลองเป็นคนขับจริง
ทางตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ขนส่งจึงได้ตักเตือนให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากภาพที่ปรากฏในคลิปแสดงให้เห็นถึงการแซงตรงทางโค้งที่มีเส้นสัญลักษณ์เป็นเส้นทึบ 2 เส้นอย่างชัดเจน และมีรถยนต์หลายคันที่แล่นสวนทางมา ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการขับขี่ด้วยความประมาทและหวาดเสียวด้วยความเร็วระหว่าง 92-104 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งมีโทษปรับผู้ประกอบการที่ต้องรับผิดชอบต่อคนขับโดยตรงสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และคนขับไม่เกิน 5,000 บาท แต่เนื่องจากให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เป็นการกระทำผิดครั้งแรก และไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น จึงเปรียบเทียบบริษัทเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท ส่วนคนขับเปรียบเทียบปรับสูงสุดจำนวน 5,000 บาท โดยไม่มีการเพิกถอนใบอนุญาตใดๆ แต่ทางตำรวจท่องเที่ยวและขนส่งได้กำชับตักเตือนให้ใช้ความระมัดระวังตลอดเวลา
พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ทาง ผบช.ตร.ทท. และรอง ผบช. รวมถึง ผบก.ทท.2 สั่งกำชับมาโดยตรง ขณะที่ผู้คนในโซเชียลมีเดียก็วิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย ทางตำรวจท่องเที่ยวจึงได้สืบสวนและติดตามจนพบผู้ที่เกี่ยวข้องตามคลิป จากนั้นได้เชิญมาสอบปากคำ เจ้าตัวก็ยอมรับว่าได้กระทำความผิดจริง ส่วนบริษัทก็ให้ความร่วมมือด้วยดี จึงได้กำชับให้เข้มงวดและระมัดระวังกันให้มากขึ้น
เพราะถนนสายเชียงใหม่-เชียงรายเป็นถนนสายท่องเที่ยว มีเอกชนนำเที่ยวใช้เส้นทางเป็นประจำไม่น้อยกว่า 30 ราย โดยมีทั้งรถบัส รถตู้ ฯลฯ นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้มีแค่ชาวจีน แต่ยังมีชาวต่างชาติจากทั่วโลกใช้บริการด้วย ซึ่งที่ผ่านมาก็ถือได้ว่าทุกรายต่างให้ความร่วมมือ รวมถึงบริษัทนิวเชียงใหม่ทราเวล จำกัด ก็มีการปฏิบัติที่ดีมาโดยตลอด
นายชาญชัยกล่าวว่า ตามปกติบริษัทจะรับนักท่องเที่ยวจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จากนั้นนำรถรับส่งไป-กลับทั้ง 2 พื้นที่สลับกันไปมา สำหรับรถทัวร์คันที่ปรากฏในคลิปนั้น ได้นำนักท่องเที่ยวจากเชียงใหม่ไปส่งที่เชียงราย เรียบร้อยแล้ว และกำลังขับรถเปล่ากลับเชียงใหม่
เมื่อตนเห็นข่าวในโซเชียลฯ ก็รู้สึกเสียใจมาก และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง จึงได้เรียกคนขับมาสอบถาม จนได้ข้อเท็จจริงจึงได้สั่งพักงานนายฉลองอย่างไม่มีกำหนดแล้ว
“บริษัทยืนยันว่าที่ผ่านมาเข้มงวดเรื่องนี้มาตลอด มีการอบรมคนขับทุกเดือน และไม่เคยมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นกับรถของบริษัท รวมทั้งไม่เคยมีการจัดทัวร์แบบวันเดียวเพื่อเร่งรถทำความเร็ว เพราะเรามีนักท่องเที่ยวลงที่สนามบินทั้ง 2 แห่งสลับกันไปมา ขณะเดียวกันก็เป็นห่วงกรณีในคลิปมีการให้เสียงเกี่ยวกับทัวร์จีน ซึ่งตนยืนยันว่าในรถไม่มีชาวจีน จึงขอชี้แจงเพราะเกรงจะกระทบกับการท่องเที่ยวในภาพรวมด้วย”
ด้านนายฉลองกล่าวว่า ตนยอมรับว่าได้ขับแซงตรงจุดดังกล่าวจริง และยอมรับผิดทุกประการ ตอนนี้ก็ถูกพักงานแล้ว สำหรับสาเหตุที่ขับเช่นนั้นเพราะรถต้องใช้แรงส่งในการขึ้นเขา ขณะที่ขับมาด้วยเกียร์ 3 ขณะที่ช่วงที่อนุญาตให้แซง รถเล็กที่อยู่ข้างหน้าก็เร่งเครื่องไม่ให้แซง ตนเห็นถนนช่วงที่เกิดเหตุรถยาวกว่า 80 เมตรไม่มีรถสวนมา จึงได้ขับแซงขึ้นไป
“ยอมรับว่าตัดสินใจผิดไป และรู้สึกเสียใจ แต่ก็เป็นจังหวะที่จำเป็นต้องแซงไม่เช่นนั้นจะเสียแรงรถ ซึ่งกรณีเป็นรถบัสขนาดใหญ่ต้องหยุดแล้วเริ่มต้นเข้าเกียร์ 1 กันใหม่เมื่อต้องขึ้นเขา ผมขับรถทัวร์มากว่า 30 ปี และตลอดระยะเวลาที่อยู่กับบริษัททางบริษัทได้เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยโดยมีการจัดอบรมทุกวันที่ 2-5 ของทุกเดือน”