สุรินทร์- ป่วนกันทั้งอำเภอ! ควายติดเชื้อพิษสุนัขบ้าตาย ชาวบ้าน อ.กาบเชิง เมืองช้าง ชำแหละเนื้อแบ่งกันกินเกือบ 200 คน เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ตามมาฉีดวัคซีนวุ่น พร้อมวางมาตรการคุมเข้มป้องกันโรคระบาด พบควายตายแล้ว 4 ตัวรวด
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทางอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ได้ส่งหนังสือประชาสัมพันธ์การรับประทานเนื้อโค-กระบือที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุอาจเสี่ยงต่อโรคพิษสุนัขบ้า ไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดยในหนังสือมีใจความสำคัญระบุว่า ด้วยเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2561 เวลา 09.00 น. นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง พร้อมด้วยนายกเทศมนตรีตำบลกาบเชิง ปศุสัตว์ อ.กาบเชิง นายแพทย์โรงพยาบาลกาบเชิง ผู้ใหญ่บ้าน ม.18 ต.กาบเชิง ออกตรวจสอบเหตุกระบือตายของ นายใจเพชร หาทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.18 ต.กาบเชิง จากการสอบถามทราบว่ากระบือตายเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2561 เวลาประมาณ 18.00 น. สาเหตุมาจากกระบือถูกสุนัขบ้ากัดเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว กระบือได้ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแล้วตาย และยังพบเหตุการณ์กระบือตายอีกรวม 4 ตัวในพื้นที่ ม.3 และ ม.18 ต.กาบเชิง
จากเหตุการณ์กระบือตายทั้ง 4 ตัวดังกล่าวข้างต้น มีกระบือตัวที่ชัดเจนว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า และมีการนำเนื้อกระบือตัวที่ตายไปรับประทาน ซึ่ง อ.กาบเชิงได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.กาบเชิง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาบเชิงได้ตรวจสอบบุคคลดังกล่าวที่มีโอกาสติดเชื้อตั้งแต่สัมผัสน้ำลายกระบือที่ตาย หรือรับประทานเนื้อกระบือที่ตาย จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกคน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในตำบล หมู่บ้านอื่นๆ อีก
อำเภอกาบเชิงจึงให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้านได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทุกคนรับทราบดังนี้ ไม่ควรนำเนื้อโค-กระบือที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุมารับประทานโดยเด็ดขาด หากราษฎรในหมู่บ้านใดที่มีการรับประทานเนื้อโค-กระบือที่ตายไม่ทราบสาเหตุควรไปพบแพทย์เพื่อหาทางป้องกันรักษาทันที
สำหรับราษฎรหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 18 ที่กินเนื้อกระบือที่ตาย หรือมีการสัมผัสน้ำลายกระบือทั้ง 4 ตัวที่ตาย ให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 18 แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ไปพบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาบเชิงเพื่อซักประวัติและรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกคน หากพบว่ามีโคตายหรือกระบือตายโดยไม่ทราบสาเหตุให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจตายเพราะติดเชื้อพิษสุนัขบ้า และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอตรวจสอบและให้ทำการฝังกลบทันที เนื่องจากหากมีการนำเนื้อโค-กระบือที่ตายไปรับประทานอาจมีความเสี่ยงติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้ เชื้อโรคพิษสุนัขบ้ามิได้ปรากฏอาการให้เห็นโดยทันที อาจมีอาการภายใน 2-3 อาทิตย์ หรือเป็นเดือน หรือมากกว่านั้นจึงจะปรากฏอาการ และไม่มียารักษาให้หายได้แต่อย่างใด นั่นคือตายสถานเดียว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายนายใจเพชร หาทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.18 ต.กาบเชิง ซึ่งมีกระบือเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าถึง 2 ตัวในคอกเดียวกัน และยังเหลืออีก 2 ตัวที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ในคอกเลี้ยง และได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันและฉีดยาฆ่าเชื้อทั่วบริเวณคอกและบ้านของนายใจเพชรแล้ว
นายใจเพชรเปิดเผยว่า เมื่อ 3 เดือนก่อนมีสุนัขไล่กัดกันมาบริเวณคอกควาย ซึ่งไม่ทราบว่าสุนัขบ้าหรือเปล่า โดยสุนัขที่มากัดควายตนเองเป็นสุนัขจรจัด ไม่ใช่สุนัขในหมู่บ้าน แต่ควายถูกสุนัขกัด ตนก็ไม่ได้ฉีดวัคซีนอะไรแต่อย่างใด พอเวลาผ่านมาถึงเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาควายของตนมีอาการหอนและร้องโหยหวน ไม่พบว่ามีน้ำลายฟูมปาก หลังจากนั้นชักและล้มตายลง
ตนเห็นว่ามีอาการตายผิดปกติจึงแจ้งปศุสัตว์อำเภอมาตัดหัวควายไปตรวจสอบ และระหว่างให้เพื่อนบ้านนำไปฝัง ตนกลับมาที่บ้านเพื่อดูอาการควายอีกตัวซึ่งมีอาการคล้ายกัน แต่คนที่ช่วยนำควายไปฝังกลับพากันชำแหละเนื้อควายนำไปกินกัน จากนั้นควายอีกตัวของตนล้มตายลงในอาการเดียวกันในช่วงเวลา 6 โมงเย็นของวันเดียวกัน ซึ่งระหว่างนั้นทางปศุสัตว์แจ้งผลมาพอดีว่าควายตัวแรกของตนที่ตายมีเชื้อพิษสุนัขบ้า จึงเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ส่วนตนไม่ได้กินแต่อย่างใด
ด้านนางบัวลอย ยืนยงค์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่ที่ 18 กล่าวว่า ตนได้เร่งออกสำรวจผู้ที่เกี่ยวข้องหรือสัมผัสกับกระบือที่ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ขณะนี้มีกลุ่มเสี่ยงกลุ่มแรกคือ ผู้ที่ชำแหละควายที่ติดเชื้อมีอยู่ 5 คน ซึ่งได้รับวัคซีนหมดแล้ว ส่วนชาวบ้านทั้งหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 18 ที่ทยอยกินกันในวันนั้นต่างก็เดินทางไปยังโรงพยาบาลกาบเชิงเพื่อรับวัคซีนแล้ว ขณะนี้มากกว่า 100 คน ส่วนตัวเลขยังไม่ชัด แต่ยังไม่พบว่ามีชาวบ้านมีอาการเป็นโรคพิษสุนัขบ้าแต่อย่างใด เพราะส่วนใหญ่ปรุงสุก แต่ต้องฉีดป้องกันไว้ก่อน
ด้าน นายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วย พญ.วรวรรณ กอปรกิจงาม รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาบเชิง และนายโอฬาร อยู่กาญจนเศรษฐ์ นายกเทศมนตรี ต.กาบเชิง ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทราบถึงอันตรายของโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบเฝ้าระวังเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่อย่างเข้มงวดตามมาตรการควบคุมพื้นที่โรคระบาดของปศุสัตว์ โดยเฉพาะผู้ที่ชำแหละและรับประทานจะต้องติดตามตัวมาฉีดวัคซีนให้ครบทุกคน
นายสุทธิโรจน์เปิดเผยว่า ขณะนี้จากการตรวจเช็กพบว่ามีชาวบ้านที่กินเนื้อควายและสัมผัสรวมทั้งสิ้น 188 ราย และได้ทำการฉีดวัคซีนแล้ว 113 ราย ที่เหลือกำลังรอคิวเข้าไปฉีดที่โรงพยาบาลกาบเชิง และได้ออกหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดสุรินทร์ทราบแล้วเพื่อออกมาตรการควบคุมต่อไป ขณะเดียวกันได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบ ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงออกนอกพื้นที่ และหากพบสัตว์เลี้ยงมีอาการผิดปกติและตายลงห้ามนำไปรับประทานเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพื่อเข้าตรวจสอบโดยทันที ในขณะเดียวกันมั่นใจในมาตรการที่ดำเนินการควบคุมจะไม่ให้ระบาดออกไปเป็นวงกว้าง
สำหรับควายทั้ง 4 ตัวที่เสียชีวิต ประกอบด้วย ตัวที่ 1 เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ มีอาการเจ็บขาและเป็นควายที่อายุมากแล้ว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 ก.ค. เป็นควายของ นายบัวเลิศ ชัยชะนี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 ม.3 ต.กาบเชิง ชาวบ้านชำแหละกิน แต่ไม่ทราบว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่, ตัวที่ 2 เป็นควายของนายประสิทธิ์ สายรัด อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.18 ต.กาบเชิง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ส.ค. เวลา 16.00 น. อาการทุรนทุราย จึงนำไปฝัง แต่ไม่ได้ตรวจ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
ส่วนตัวที่ 3 และตัวที่ 4 เป็นควายของ นายใจเพชร หาทรัพย์ โดยตัวที่ 3 มีการตัดหัวไปตรวจสอบเชื้อพบติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าแต่ชาวบ้านได้ชำแหละแบ่งกันกินก่อนที่จะทราบผล และอีกตัวหลังทราบว่าตัวที่กินมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจึงนำไปฝัง ซึ่งเสียชีวิตวันเดียวกัน เวลา 07.00 น. และ 18.00 น.ของวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา