xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแล้ว! มช.ตั้ง “สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า” เดินหน้า CMU Smart City-Clean Energy เต็มที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตัดริบบิ้นเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์เซลล์ เดินหน้ายุทธศาสตร์ CMU Smart City-Clean Energy เต็มที่ รถ 5 ที่นั่งชาร์จไม่เกิน 30-40 นาทีวิ่งได้ 150 กม./ครั้ง รองรับได้ทั้งรถ Hybrid-รถไฟฟ้า 100%

รายงานข่าวแจ้งว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) จากพลังงานโซลาร์เซลล์เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ลานจอดรถ สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ (EDRI-CMU) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สนองยุทธศาสตร์ Green and Clean ; Sustainability University มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำร่องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สู่การใช้งานสาธารณะอย่างเป็นรูปธรรม

ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณหลักจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานจาก บริษัท สากล เอนเนอยี่ จำกัด และบริษัท บาร์เซโลน่า ออโต้ จำกัด

รศ.ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รักษาการแทนรองอธิการบดีในงานฝ่ายบริหารงานทั่วไป กายภาพและยุทธศาสตร์ นวัตกรรม สิ่งแวดล้อมและพลังงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตระหนักถึงความสำคัญด้านการบริหารจัดการระบบกายภาพและสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หนึ่งในนั้นคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการจราจรและขนส่งมวลชน ด้วยการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในมหาวิทยาลัย ครอบคลุมถึงระบบรถไฟฟ้าและการพัฒนาสถานีรถไฟฟ้า

โดยมีนโยบายในการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง ด้วยการลดใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ภายในมหาวิทยาลัย จึงได้จัดบริการรถไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ จำนวน 60 คัน คันละ 12 ที่นั่ง ออกวิ่งรับผู้โดยสาร วนรอบมหาวิทยาลัยทั้งหมด 5 สาย ทุกวันไม่เว้นวันหยุด คิดเป็นระยะทาง 6,660 กิโลเมตรต่อวัน หรือ 2,023,400 กิโลเมตรต่อปี รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 16,700 คนต่อวัน หรือ 5,097,024 คนต่อปี ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศได้มากถึง 3,034 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อวัน หรือ 601,500 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงความสำคัญในการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงในรถยนต์ และหันมาให้ความสำคัญการเลือกใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ยานยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์แบบเดิมที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลง ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารจัดการที่ดีและพัฒนาสู่ความเป็นสากลตามยุทธศาสตร์ Green and Clean; Sustainability University มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม CMU Smart City-Clean Energy

สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ดำเนินงานศึกษาวิจัย ออกแบบและจัดสร้างสถานีชาร์จประจุรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Station) จากพลังงานโซลาร์เซลล์ ติดตั้งไว้ ณ สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์

สถานีชาร์จประจุไฟฟ้าจากพลังงานโซลาร์เซลล์แห่งนี้ จะเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่จะช่วยส่งเสริมและต่อยอดความเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว ด้วยการใช้พลังงานทดแทน พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นำไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ หรือ Low Carbon Society ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนจากการวิจัยมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ผลักดันให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กลายเป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ (SMART CITY) เป็นต้นแบบที่สำคัญให้แก่นักศึกษา บุคลากร หน่วยงานต่างๆ และสังคม หันมาช่วยกันให้ความตระหนัก และให้ความสำคัญถึงประโยชน์ของการใช้พลังงานทดแทนภาคการขนส่งมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และนำไปสู่การใช้พลังงานของประเทศได้อย่างยั่งยืน

ผศ.ดร.พฤกษ์ อักกะรังสี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเริ่มตื่นตัวและมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยมียานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในประเทศไทย 103,702 คัน แบ่งเป็น ยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งแบบไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) 102,308 คัน และยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle) 1,394 คัน

ขณะที่สถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) จากพลังงานโซลาร์เซลล์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ถูกออกแบบและติดตั้งให้สามารถรองรับยานยนต์ได้ทั้งรถแบบ Hybrid ที่มีการใช้ไฟฟ้าร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน Plugin Hybrid (PHEV) และรถไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า 100% (All Electric Car) เครื่องอัดประจุไฟฟ้าเป็นแบบที่มีหลายหัวจ่ายไฟฟ้าในชุดเดียว โดยมีหัวอัดประจุแบบ CHAdeMO, CCS Combo2 และ AC Type2 ซึ่งรองรับทั้งการอัดประจุแบบปกติ (Normal Charge และ Quick Charge) เป็นไปตามมาตรฐานนานาชาติ รองรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งหัวจ่ายกระแสไฟฟ้าตามมาตรฐานยุโรป และญี่ปุ่น

ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จแต่ละครั้งประมาณ 30-40 นาที สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 5 ที่นั่ง วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 150 กิโลเมตรต่อครั้ง ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึงร้อยละ 20 นับเป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานสีเขียวที่สำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต่อยอดความเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยการหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ก้าวสู่ CMU Smart City-Clean Energy มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ พลังงานสะอาด เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โดยรถยนต์ 1 คันสามารถชาร์จไฟฟ้าวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 150 กิโลเมตรต่อครั้ง ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อนได้มากถึงร้อยละ 20 ในการดำเนินงานโครงการได้รับการสนับสนุนงบประมาณหลักจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานจาก บริษัท สากล เอนเนอยี่ จำกัด และบริษัท บาร์เซโลน่า ออโต้ จำกัด โดยภายในงานมีผู้ทรงคุณวุฒิจากกองทัพอากาศเข้าร่วมสังเกตการณ์ในฐานะ Partner โครงการ CMU Smart City / RTAF Smart Wing และจัดให้มีพิธีบันทึกความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ระหว่างกองทัพอากาศกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่



กำลังโหลดความคิดเห็น