ศรีสะเกษ - ลูกศิษย์เศร้า! อดีตหลวงปู่เณรคำถูกศาลตัดสินจำคุก 114 ปี เผยไม่น่าเชื่อจะกระทำผิดตามฟ้อง ยังคงระลึกถึงคุณงามความดีของหลวงปู่เณรคำเสมอ อยากให้กลับมาพัฒนาวัดป่าขันติธรรมต่อหากยังอยู่วัดจะเจริญมากกว่านี้
วันนี้ (9 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสามัคคิยาราม หรืออดีตชื่อเดิมวัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวัดอดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือ นายวิรพล สุขผล เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา ปรากฏว่าหลังจากที่มีข่าวว่าอดีตหลวงปู่เณรคำถูกศาลอาญาพิพากษารวมทุกข้อหาจำคุก 114 ปี บรรยากาศภายในบริเวณวัดค่อนข้างเงียบเหงามาก พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกยังคงตั้งตระหง่านโดดเด่นเหมือนเดิม
ภายในวัดตามกุฏิพระสงฆ์ทุกหลังปิดเงียบ ไม่มีพระสงฆ์เดินไปมาแต่อย่างใด บริเวณที่เคยเป็นที่ติดตั้งรูปขนาดใหญ่ของอดีตหลวงปู่เณรคำได้ถูกปลดลงแล้ว และได้มีการอัญเชิญพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ มาติดตั้งไว้แทน
ส่วนในศาลาสามัคคีธรรม รูปขนาดใหญ่ของอดีตหลวงปู่เณรคำได้ถูกปลดลงเช่นกันและได้มีการนำรูปภาพของเจ้าอาวาสวัดสามัคคิยารามรูปปัจจุบันมาติดตั้งไว้แทน ส่วนบริเวณที่เคยเป็นกุฏิจำพรรษาของหลวงปู่สมบูรณ์ ขันติโก อาจารย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ ยังคงมีรูปภาพขนาดเล็กของอดีตหลวงปู่เณรคำติดตั้งไว้ที่ฝาผนัง
พระลูกวัดรูปหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าศาลาวัดกล่าวด้วยอาการตกใจเมื่อทราบข่าวว่า อดีตประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรมถูกจำคุก 114 ปี ว่า อาตมาภาพยังไม่ทราบข่าวนี้มาก่อนเลย และอาตมาภาพไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เณรคำ เพิ่งมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ได้ 2 ปีเท่านั้น แต่ได้ทราบถึงคุณงามความดีของท่านที่ได้นำพุทธศาสนิกชนสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นมาไว้ที่วัดแห่งนี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา
อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมใดใครก่อต้องเป็นไปตามกรรมนั้น ซึ่งวัดแห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่จำนวน 4 รูป และปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขณะเดียวกัน บริเวณถนนทางเข้าวัด ได้มี 2 สามีภรรยาชาวบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่อดีตเคยเป็นลูกศิษย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ และเคยทำงานช่วยอดีตหลวงปู่เณรคำมาโดยตลอด ได้พากันนำเครื่องตัดหญ้ามาตัดหญ้าบริเวณถนนเข้าวัดเพื่อให้บริเวณวัดสะอาดสวยงาม เพื่อเตรียมต้อนรับพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่จะพากันมากราบไหว้ขอพรจากพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก
นายลำยอง จันทร์ลี อายุ 42 ปี และ นางปราณี จันทร์ลี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ สามีภรรยา ร่วมกันกล่าวด้วยอาการเศร้าสร้อยว่า พวกตนอดีตเคยเป็นลูกศิษย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ ยังคงพากันคิดถึงหลวงปู่เณรคำ เนื่องจากหากไม่มีหลวงปู่เณรคำวัดป่าขันติธรรมหรือวัดสามัคคิยารามคงไม่เจริญมาจนถึงบัดนี้ ซึ่งหากหลวงปู่เณรคำยังอยู่ที่วัดนี้วัดจะต้องเจริญกว่านี้อย่างแน่นอน
พวกตนยังคงเชื่อว่าหลวงปู่เณรคำไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา พวกตนยังคงระลึกถึงคุณงามความดีของหลวงปู่เณรคำที่ได้ก่อสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมา และขณะนี้แม้ว่าจะมีเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่แล้ว แต่พวกตนยังระลึกถึงหลวงปู่เณรคำเสมอ อยากให้ท่านกลับมาพัฒนาวัดแห่งนี้ให้เจริญมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมต่อไป ซึ่งวัดแห่งนี้ปัจจุบันจะมีพุทธศาสนิกชนมากราบไหว้ขอพรจากพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกวันประมาณ 10 คนเท่านั้น
