นครปฐม - ตำรวจนครปฐม รวบหนุ่มใหญ่อ้างเป็นครูอัตราจ้าง ขี่ จยย.ออกตระเวนลักทรัพย์บ้านเอื้ออาทรนครชัยศรี หลายครั้ง ตำรวจอึ้งนำไปตรวจค้นบ้าน พบของที่ขโมยมานับพันรายการ โดยมีเจ้าทุกข์แห่มาดูหน้าเจ้าตัวเพียบ
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สีหเดช ประกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ รอง ผกก.สส. พร้อมชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายพิธี บุญทวี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 1 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ในเคหสถาน
โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน 3 กด 9060 กทม.เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และทรัพย์สินที่ก่อเหตุลักมาได้ทเช่น โน้ตบุ๊ก ไอแพด สร้อยทอง เครื่องประดับ พระเครื่องต่างๆ กว่า 1,000 รายการ มาแถลงข่าวการจับกุม โดยมีกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากมารอดูตัวผู้ต้องหา
พ.ต.อ.สีหเดช ประกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี เผยว่า เมื่อวันที่ 3 ส.ค.61 ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ชั้น 4 ตึกที่ 1 หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี ได้แจ้งความพนักงานสอบสวน ว่า ห้องพักถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้ามาลักทรัพย์ในห้อง มีทรัพย์สินหายหลายรายการ และช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้พักอาศัยที่หมู่บ้านแห่งนี้จำนวนหลายสิบราย ว่า ถูกคนร้ายโจรกรรมทรัพย์สินภายในห้องพัก
จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลทางลับ และตรวจเช็กกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และเส้นทางเข้าออก พบผู้ก่อเหตุเป็นชายใช้รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน 3 กด 9060 กทม.ตระเวนก่อเหตุ จึงได้สืบค้นข้อมูลและไปจับกุม นายพิธี บุญทวี ที่บ้านพัก พร้อมรถจักรยานยนต์ และของกลางบางส่วน ซึ่ง นายพิธี ได้สารภาพว่าก่อเหตุจริง พร้อมพาเจ้าหน้าที่ไปที่ห้องพักที่โรงเรียนบ้านไร่ต้นสำโรง อ.เมืองนครปฐม ที่ นายพิธี เป็นครูอยู่ จากการตรวจค้นก็พบของกลางที่ถูกก่อเหตุจำนวนมาก
จากการสอบสวน นายพิธี อ้างว่า มีอาชีพเป็นครูอัตราจ้างโรงเรียนบ้านไร่เกาะต้นสำโรง เขตเมืองนครปฐม ช่วงกลางวันไม่มีสอนจะขับรถจักรยานยนต์ พร้อมนำอุปกรณ์เครื่องมือช่างไปตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์หมู่บ้านเอื้ออาทร ต.ท่าตำหนัก เพราะเคยเข้าอาศัยเมื่อปีก่อน จนรู้ทางเข้าออก โดยเลือกห้องพักที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัย และไม่ได้ติดเหล็กและล็อกกุญแจด้านนอก ซึ่งเวลาก่อเหตุจะเคาะห้องก่อนว่ามีคนอยู่หรือเปล่า จากนั้นจะถอดบานเกล็ด และเอื้อมมือไปเปิดประตู
เมื่อเข้าไปในห้องพักของเหยื่อจะค้นสิ่งของมีค่าที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย โดยเฉพาะทองรูปพรรณ โทรศัพท์มือถือ พระเครื่อง แล้วนำไปขาย โดยก่อเหตุมาแล้วที่จำได้ 12 ครั้ง เงินที่ได้เอาไปใช้จ่าย เพราะติดหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นที่ใช้คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐานประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางผู้เสียหาย และชาวบ้านที่มารอดูตัวหลายสิบคน