กาฬสินธุ์ - เปิดชีวิต “สปาย” สาวงามบ้านนา กวาดรางวัลมาแล้วหลายเวที เป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว ยอมเสียสละไม่เรียนต่อปริญญา “นิติศาสตร์” หวังหาเงินเลี้ยงครอบครัว แม่เผยวิญญาณสุดเฮี้ยนโผล่ให้เห็นสภาพเลือดท่วมตัว เชื่อแค้นที่ถูกเสี่ยอ้วนฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
จากกรณีที่นายอนันตชัย หรือฟอส จิตรัมย์ อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยมจนเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยร่างไว้วิญญาณของน้องฟอส หนึ่งในผู้เสียชีวิตได้ทำพิธีฌาปนกิจไปแล้วเมื่อวาน (1 ส.ค. 61) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (2 ส.ค.) ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 1 บ้านนาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ครอบครัวของน้องสปาย หรือ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ ได้ตระเตรียมสิ่งของและต้อนรับแขกเหรื่อที่จะเดินทางมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพในช่วงบ่ายวันนี้ โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อน และคนรู้จักเดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพจำนวนมาก โดยวันนี้ในเวลา 14.00 น.จะเคลื่อนร่างไร้วิญญาณของน้องสปาย หรือปลาย ไปยังเมรุวัดป่านาตาล วัดเดียวกันกับที่ทำพิธีฌาปนกิจศพน้องฟอสไปเมื่อวานนี้
นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ อายุ 41 ปี แม่ของน้องสปาย ที่อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ เล่าด้วยน้ำตาว่า ตั้งแต่เด็กจนโตน้องสปาย เป็นคนเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อไม่ซน แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็ไม่เคยประพฤติตัวเสียหาย และเพื่อนฝูงที่คบหาส่วนใหญ่ก็จะคบกับสาวประเภทสอง ถึงแม้ว่าน้องสปายจะมีหน้าตาดี เป็นธิดาท่าคันโท ธิดาวังสามหมอ และรองชนะเลิศการประกวดธิดาแพรวาของ จ.กาฬสินธุ์ สปายก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องคนมาติดพัน
โดยครอบครัวหวังให้น้องสปายได้เรียนสูงๆ จบปริญญา ซึ่งตัวน้องเองก็พร้อมจะเรียนโดยเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี แต่เรียนได้เพียง 1 ปี ก็หยุดเรียนเพราะต้องการหาเงินมาดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่ ซึ่งน้องสปายจะพูดอยู่เสมอว่า “อยากให้พ่อแม่สบาย ไม่อยากให้ลำบาก”
แต่วันนี้น้องสปายไม่อยู่ ครอบครัวก็เหมือนขาดเสาหลักไป ทุกๆ คนยังเสียใจ เรื่องอนาคตยังไม่คิดอะไร คิดไม่ออก ส่วนภาระที่มีตอนนี้คือค่างวดรถของน้องสปายที่ต้องผ่อนชำระ ครอบครัวจะต้องรับผิดชอบต่อไป
นางวันเพ็ญเล่าอีกว่า แรกๆ ก็สงสัยการทำงานของลูกที่มีเงินมากมาย แต่ตัวเองได้ไปพิสูจน์เห็นกับตาแล้วและเชื่อใจลูกว่าทำอาชีพสุจริต ขณะที่เรื่องของเสี่ยอ้วนได้คุยทางโทรศัพท์และวิดีโอคอลทางไลน์พูดคุยทุกวัน เสี่ยอ้วนเองมักจะพูดอยู่เสมอว่ารักน้องสปาย อยากดูแล ตนเองก็ยังขอบคุณไป แต่เวลานี้อยากจะถามว่า “รักแล้วทำไมต้องฆ่า ฆ่าทำไม และทำไมต้องฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เสียใจมาก”
นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นในครอบครัว โดยผู้เป็นแม่ได้เล่าว่า ตั้งแต่ไปรับร่างไว้วิญญาณของน้องสปายกลับมาบ้าน ตลอดระยะเวลาเดินทางจากสัตหีบ จ.ชลบุรี มาที่ อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ จะได้ยินเสียงสะอื้นไห้อยู่เป็นระยะ และยังคล้ายกับมีคนมาสวมกอดตัวแม่
นอกจากนี้ หลังการตั้งศพบำเพ็ญกุศลช่วงกลางดึกยังได้ยินเสียงสะอื้นไม่หยุด จะทำอะไรก็จะได้ยินเสียงตลอดเวลา จนเวลาตี 3 จึงตัดสินใจเคาะโลงศพบอกลูกให้เข้มแข็ง อย่าร้องไห้ ไม่ได้สอนให้อ่อนแอ เสียงนั้นจึงเงียบไป
ขณะที่น้องชายและลูกหลานบอกว่าได้ฝันเห็นภาพใบหน้าของน้องสปายชุ่มไปด้วยเลือด ญาติพี่น้องเชื่อว่าวิญญาณของน้องสปายยังคงอาฆาตและแค้นที่ถูกฆ่า