พิษณุโลก - ชาวนาพื้นที่ “บางระกำโมเดล 61” เร่งจ้างรถลงเกี่ยวข้าวตามแผน เตรียมเปิดพื้นที่กว่า 3.8 แสนไร่ รอรับน้ำเหนือเต็มที่
แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำฝนและน้ำเหนือไม่มากเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ชาวนาที่อยู่ในพื้นที่รับน้ำ “บางระกำโมเดล 2561” กำลังทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตกันแล้ว เช่น บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก, อ.บางระกำ, อ.พรหมพิราม ฯลฯ โดยคาดว่ากลางเดือนสิงหาคมนี้จะเก็บเกี่ยวผลผลิตเกิน 50% และหากไม่มีฝนตกหนักในเขตจังหวัดแพร่ สุโขทัย และพิษณุโลก พื้นที่นาข้าวในเขตลุ่มต่ำนี้จะเก็บเกี่ยวจนหมด ปล่อยพื้นที่ให้เป็นแหล่งรับน้ำทันที
นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน เปิดเผยว่า นาข้าวพื้นที่โครงการบางระกำโมเดล ปื 2561 มีทั้งหมด 382,000 ไร่ อยู่ใน อ.พรหมพิราม, อ.เมือง, อ.บางระกำ, อ.วัดโบสถ์ (บางส่วน) และ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย จนถึงวันที่ 24 ก.ค. 61 มีการเก็บเกี่ยวแล้ว 120,579 ไร่ (31.55%) อยู่ระหว่างเก็บเกี่ยว คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อน 15 ส.ค จำนวน 210,693 ไร่ (55.15%) และเก็บเกี่ยวหลัง 15 ส.ค จำนวน 50,908 ไร่ (13.30%) แต่ไม่มีผลกระทบเพราะเป็นพื้นที่ดอนตอนบนในเขต อ.กงไกรลาศ และ อ.พรหมพิราม
โดยหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิหมดในสิงหาคม 2561 คาดว่าจะมีพื้นที่ลุ่มต่ำใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำหลาก 382,000 ไร่ (เฉพาะพื้นที่ฝั่งซ้ายแม่น้ำยมในเขตชลประทาน) สามารถรองรับปริมาณน้ำหลากและชะลอการระบายน้ำได้สูงสุด 550 ล้าน ลบ.ม.ตั้งแต่ 15 ส.ค.นี้เป็นต้นไป แต่ปริมาณน้ำจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำจากลุ่มน้ำยมตอนบนของ จ.สุโขทัย และ จ.แพร่ เป็นหลัก
นายศิริ เพ็งจันทร์ 64 ปี ชาวนาหมู่ 12 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปีนี้ฝนตกไม่มากในพื้นที่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย แต่ในพื้นที่ก็ต้องเร่งจ้างรถมาเกี่ยวข้าวเพราะเกรงว่าหากฝนตกมาจะประสบปัญหาความชื้นสูง ข้าวที่เกี่ยวและนำไปขายท่าข้าว-โรงสีจะได้ราคาต่ำ โดยขณะนี้สามารถขายข้าวได้ในราคาตันละ 6,000-6,200 บาท ถ้าฝนตกข้าวมีความชื้นสูงจะขายได้ในราคาประมาณตันละ 5,800 บาทเท่านั้น