ศูนย์ข่าวศรีราชา - รถยนต์กระบะบรรทุกถังสีเต็มคัน เสียหลักพุ่งชนท้ายรถกระบะที่วิ่งอยู่ด้านหน้าหลังยางระเบิด เป็นเหตุให้รถพลิกคว่ำ และเกิดเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว เหตุเกิดบนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ตอน 2 โชคดีไม่มีใครเสียชีวิต
เมื่อเวลา 17.00 น วันนี้ (30 ก.ค.) ร.ต.อ.ภูเดชา เชื่อมั่น รองสารวัตรเวรสอบสวน ตำรวจทางหลวงเขาเขียว ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะยางระเบิดจนเสียหลักพุ่งชนท้ายรถกระบะอีกคันที่ขับอยู่ด้านหน้า เป็นเหตุให้รถพลิกคว่ำ และเกิดเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน เหตุเกิดบนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ตอน 2 บริเวณสะพานต่างระดับหนองแขวะ ฝั่งขาเข้าพัทยา หลักกิโลเมตร 105+600 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศรีราชา เดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไม่ทราบสี หมายเลขทะเบียน ฒฬ 686 กรุงเทพมหานคร ซึ่งบรรทุกถังสีมาเต็มคัน สภาพพลิกคว่ำตะแคงอยู่บริเวณเลนซ้ายสุด และกำลังถูกเพลิงลุกไหม้จนได้รบความเสียหายทั้งคัน เนื่องจากถังสีเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งทำการฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบถาม นายชาตรี สิมสินธิ์ อายุ 19 ปี ชาว อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันเกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ตามลำตัวทราบว่า ได้ขับรถบรรทุกถังสีมาเต็มคันออกจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าพัทยาด้วยความเร็วสูง โดยมี นายบุญเรือง อิ่นคำ อายุ 48 ปี น.ส.ชาลิสา จิฌะไชย อายุ 27 ปี และ น.ส.สาวิตรี พิศดู อายุ 19 ปี นั่งมาด้วย และได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้ตามลำตัวเช่นกัน
โดยบอกว่า เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุยางรถยนต์ได้เกิดระเบิด จนทำให้รถเสียการทรงตัว และพุ่งเข้าชนท้ายรถกระบะที่ขับอยู่ด้านหน้าอย่างแรง จนทำให้รถของตนเองพลิกคว่ำ และเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้ตนเอง และผู้ที่โดยสารมาด้วยต้องรับหนีตายออกจากรถอย่างทุลักทุเล ซึ่งก็ยังโชคดีที่ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีผู้ใดเสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการรักษา
นอกจากนั้น ในที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บษ 7163 ชลบุรี สภาพด้านท้ายพังยับเยินจากถูกรถบรรทุกถังสีพุ่งเข้า โดยมีคนขับรถ (ขอสวงนชื่อ) ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ ร.ต.อ.ภูเดชา เชื่อมั่น รองสารวัตรเวรสอบสวน ตำรวจทางหลวงเขาเขียว เผยว่า จะรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดรักษาให้อาการดีขึ้นก่อน จากนั้นจึงจะทำการสอบสวนคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย และจะทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป
