อุตรดิตถ์ - จนมุมตำรวจแล้ว หัวขโมยทุเรียนลับแล..หลังบึ่งจักรยานยนต์ออกอาละวาดลักทุเรียนกลางดึก โชคร้ายเจ้าของล้งสะดุ้งตื่นไล่ตะเพิด จนต้องทิ้งรถเผ่นป่าราบ ตำรวจใช้แกะรอยตามจับตัวจนได้
วันนี้ (24 ก.ค.) พ.ต.ท.พีรพงษ์ จำนงจิตร พนักงานสอบสวน สภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ลับแล ได้จับกุมนายพิเชษฐ์ หรือครึ้ม แก้วเพียร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179/1 หมู่ 10 ต.แม่พูล อ.ลับแล หลังจากนายเปรื่อง หลวงริด เลขที่ 259/5 หมู่ 11 ต.แม่พูล อ.ลับแล นำรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่พยายามเข้าไปขโมยทุเรียนที่ล้ง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี
นายเปรื่องเล่าว่า คืนที่ผ่านมามีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ดันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทาแดง หมายเลขทะเบียน 1 กง 4535 อุตรดิตถ์ ด้านท้ายมีตะแกรงเหล็กสำหรับบรรทุกผลไม้ออกจากสวน เข้าไปขโมยทุเรียนที่ล้ง แต่ยังไม่ได้ทุเรียนและทรัพย์สินอื่น เนื่องจากตนรู้สึกตัวลุกออกมาดู ทำให้คนร้ายทิ้งรถมอเตอร์ไซค์วิ่งหลบหนีไป จึงนำรถมาแจ้งความต่อตำรวจดังกล่าว
ต่อมา พ.ต.ท.พีรพงษ์ และชุดสืบสวน สภ.ลับแล สืบทราบว่า รถจักรยานคันดังกล่าวเป็นของนางสุดารัตน์ ปิ่นทอง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/141 หมู่ 4 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล ซึ่งทางญาติให้ข้อมูลว่านางสุดารัตน์ออกจากบ้านไปนานกว่า 3 ปีแล้ว และให้ข้อมูลที่สามารถนำไปสู่การจับกุมตัวนายพิเชษฐ์ได้ว่าเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว
จากนั้นชุดสืบสวน สภ.ลับแลได้ตรวจดูภาพวงจรปิดหลายจุดก็พบว่าผู้ก่อเหตุที่ล้งของนายเปรื่อง และขโมยทุเรียนในสวนผลไม้ของชาวสวน อ.ลับแล คือ นายพิเชษฐ์ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มักจะอาศัยหลับนอนตามสวนผลไม้ เมื่อสบโอกาสก็จะขโมยทุเรียนของชาวสวนออกมาจำหน่ายเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายประจำวัน จึงติดตามจับกุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนเป็นคดีหลักก่อน ส่วนข้อหาลักทรัพย์ ยังต้องรอสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง