บุรีรัมย์ - สลด น้องมอสวัย 4 ขวบ ชาวบุรีรัมย์ ผู้เจอกระเป๋าทิ้งข้างถนนขณะกลับจากเลี้ยงควายกับยายจึงลากกลับบ้าน แต่พบภายในซุกยาบ้าเกือบ 4 หมื่นเม็ด ถูกรถกระบะพุ่งชนดับคาที่ขณะวิ่งข้ามถนนจุดเดียวกับที่เจอกระเป๋ายาบ้า ยายร่ำไห้ปิ่มขาดใจ
วันนี้ (22 ก.ค.) ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนเด็กชายวัย 4 ขวบ บนถนนสายนางรอง-ปะคำ ต.สะเดา อ.นางรอง อาการสาหัส จึงประสานรถฉุกเฉินโรงพยาบาล และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ประจำจุดอำเภอนางรอง ร่วมตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 ช่องจราจร พบร่างเด็กชายนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณกลางถนน ในสภาพสวมเสื้อและกางเกงขาสั้นสีส้ม มีเลือดไหลออกจากปาก จมูก และศีรษะ ใกล้กันพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฒฬ 1699 กรุงเทพมหานคร คันที่พุ่งชนเด็กชายคนดังกล่าว จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ และคนขับไม่ได้หลบหนี
จากนั้นหน่วยกู้ภัยจึงได้ช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตเด็กชายเคราะห์ร้ายดังกล่าว แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยมี นางทวี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ผู้เป็นยาย นั่งร้องไห้เหมือนจะขาดใจอยู่ข้างร่างไร้วิญญาณของหลานด้วย
จากการสอบถามทราบว่า เด็กชายเคราะห์ร้ายที่ถูกรถกระบะชนเสียชีวิตชื่อ ด.ช.มอส อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กที่เคยพบกระเป๋าเดินทางใบสีชมพูถูกทิ้งอยู่ริมถนนสภาพค่อนข้างใหม่ขณะกลับจากเลี้ยงควายกับยายเมื่อคืนวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้ลากกระเป๋าใบดังกล่าวกลับบ้านด้วยเพราะเห็นว่าสวยดี แต่เมื่อนำไปถึงบ้านและเปิดออกดูกลับพบว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่เป็นมัดๆ จำนวน 10 มัด รวมเป็น 40,000 เม็ด ซุกอยู่ภายในกระเป๋า จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและตรวจยึดไว้เพื่อสืบหาที่มาของเจ้าของยาบ้าดังกล่าว ซึ่งจุดเกิดเหตุที่น้องมอสถูกรถกระบะชนเสียชีวิตในครั้งนี้เป็นบริเวณเดียวกันกับที่น้องพบกระเป๋าเดินทางปริศนาใบดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายสมาน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี คนขับรถกระบะคันเกิดเหตุ เล่าว่า กำลังจะขับรถไป จ.ร้อยเอ็ด พอมาถึงจุดเกิดเหตุน้องได้วิ่งข้ามถนนมาในระยะกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทันจึงพุ่งชนเต็มแรงจนน้องเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และสอบปากคำคนขับรวมถึงผู้เห็นเหตุการณ์เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการพบกระเป๋าซุกยาบ้าแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเหตุบังเอิญที่จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณเดียวกันเท่านั้น เนื่องจากบ้านของน้องผู้เสียชีวิตอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าว ที่ผ่านมาจะข้ามไปมาประจำแต่จะมีผู้ใหญ่พาข้าม แต่ครั้งนี้เด็กวิ่งข้ามเองคนเดียวอาจไม่ทันระวังและมองไม่เห็นรถที่วิ่งมาจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าวขึ้น
