ฉะเชิงเทรา- ชาวหนองหว้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมใจปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนรมิตพื้นที่ชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ขณะที่บริษัท ซีพีเอฟ ร่วมสร้างผืนป่านิเวศในเนื้อที่14 ไร่
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้( 21 ก.ค.) ชาวบ้านหมู่บ้านหนองหว้า นำโดย นายบัญชา ฉานุ ผู้ใหญ่บ้าน ม. 3 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมใจออกแรงพัฒนาหมู่บ้าน พร้อมปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ตามท้องถนนให้เกิดความสวยงาม ด้วยการปลูกต้นทองอุไร ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ดอกสีเหลืองที่ออกดอกได้ตลอดทั้งปี
นายบัญชา กล่าวว่า การนำชาวบ้านพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์ในวันนี้ เพื่อให้ชาวบ้านได้ร่วมแสดงพลังความสามัคคีด้วยการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และยังเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์หมู่บ้าน รองรับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม ที่มีความโดดเด่นหลายด้าน อาทิ การเพาะเห็ดฟางและการทำเกษตรผสมผสาน
นอกจากนั้น หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า ยังเป็นชุมชนในโครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมของ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดย นายสมควร ชูวรรธนะปกรณ์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการสายธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ พร้อมด้วย นายคงเดช มหาราช ปลัดอาวุโส อ.พนมสารคาม และนายภักดี ไทยสยาม ประธานกรรมการบริษัทหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า ได้นำชาวบ้านพร้อมด้วยนักเรียนในพื้นที่ ร่วมกันปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา 28 ก.ค.2561 เพื่อสร้างป่านิเวศในชุมชน
โดยได้ร่วมกันปลูกพันธุ์ไม้หลายชนิดในแปลงเดียวกัน ทั้ง ต้นพะยูง, ต้นรวงผึ้ง ,ต้นทองอุไร และต้นยางนา เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่ชุมชน
นายสมควร กล่าวว่า การปลูกป่าในวันนี้เป็นการใช้พื้นที่ว่างระหว่างโรงเรือนภายในฟาร์มปลูกป่านิเวศ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หลังจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผืนป่าในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง จึงทำให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง ฟาร์มสุกรของเครือบริษัทฯ ทุกแห่ง จึงได้ดำเนินโครงการฟาร์มสีเขียว ที่มีการปลูกต้นไม้ในบริเวณฟาร์มและพื้นที่ว่าง เพิ่มความร่มรื่นและลดความร้อน ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้กับโรงเรือนสุกร
"ที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มโครงการปลูกป่านิเวศในชุมชนมาตั้งแต่ ปี 2558 บนพื้นที่ 14 ไร่ โดยรวบรวมพันธุ์ไม้ยืนต้น ไม้เศรษฐกิจ พันธุ์ไม้หายาก และพืชสมุนไพรกว่า 109 ชนิด ทำการปลูกป่าไปแล้วจำนวน 50,000 ต้น ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนต่อไป "นายสมควร กล่าว