ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่มเทศบาลสันกำแพงใช้เวลาว่างหลังเลิกงานเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ “ด้วงกว่าง” สำเร็จมากว่า 2 ปี ขายสร้างรายได้เสริม ยินดีถ่ายทอดวิชาให้ผู้สนใจ
นายณัฐพล จันทรรัตน์ อายุ 42 ปี พนักงานเทศบาลแห่งหนึ่งในอำเภอสันกำแพง เป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถทำการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ด้วงกว่างได้เป็นผลสำเร็จ เปิดเผยว่า สามารถทำการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ด้วงกว่างมาได้กว่า 2 ปีแล้ว โดยเริ่มจากความชื่นชอบส่วนตัว จึงใช้เวลาว่างจากการทำงานประจำในช่วงหลังเลิกงานและวันหยุด ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน เพราะมีผู้ที่สามารถทำได้ตั้งแต่เมื่อกว่า 7 ปีที่แล้ว จากนั้นได้ทดลองปฏิบัติด้วยการใช้พื้นที่ว่างในบริเวณบ้านเป็นโรงเรือนขนาดเล็กในการทำจนกระทั่งประสบความสำเร็จ
ทั้งนี้ วิธีการจะเริ่มจากการคัดเลือกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่คิดว่าดีที่สุดนำมาผสมพันธุ์กัน จากนั้นปล่อยให้วางไข่ในวัสดุที่ทำจากขี้เลื่อยและเศษวัสดุธรรมชาติที่ผ่านกรรมวิธีหมักบ่มจนมีคุณสมบัติและลักษณะเหมือนที่วางไข่ตามธรรมชาติ ซึ่งแม่พันธุ์หนึ่งตัวจะวางไข่ประมาณ 200 ฟอง แล้วปล่อยทิ้งไว้จนกระทั่งไข่มีการเจริญเติบโตเป็นหนอนประมาณ 3 เดือน จึงจะทำการแยกเพศเลือกเฉพาะตัวผู้ที่จะเลี้ยงไว้ให้โตเต็มวัยเพื่อขายหรือนำไปประกวดแข่งขัน ส่วนตัวเมียรวมทั้งตัวผู้จำนวนหนึ่งจะมีการปล่อยสู่ธรรมชาติ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และเพิ่มจำนวนด้วงกว่างในธรรมชาติ ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่ผสมพันธุ์จนกระทั่งด้วงกว่างโตเต็มวัยนั้น นานประมาณ 8-10 เดือน มีปัจจัยสำคัญอยู่ที่การควบคุมอุณหภูมิและวัสดุที่ใช้ในการเพาะเลี้ยง
สำหรับการเพาะเลี้ยงด้วงกว่างเพื่อขยายพันธุ์นั้น นายณัฐพลบอกว่า เหตุผลหลักอย่างหนึ่งเนื่องมาจากปัจจุบันด้วงกว่างในธรรมชาติลดจำนวนลงอย่างมากและหาจับได้ยาก ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นชนด้วงกว่างจำนวนหนึ่งคิดค้นหาวิธีการที่จะทำการเพาะขยายพันธุ์ขึ้น และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้กันผ่านทางโซเชียลมีเดียให้ผู้สนใจเข้าไปศึกษา ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มของตัวเองมีการตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “กว่างชน สายเพาะ (อนุรักษ์กว่างชน)” ขึ้นมา เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้ผู้สนใจด้วย ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้วเกือบหมื่นคน
ส่วนด้วงกว่างที่ได้จากการเพาะขยายพันธุ์ของตัวเองในปีนี้ที่มีตัวผู้จำนวนทั้งสิ้นกว่า 200 ตัว ซึ่งเวลานี้ส่วนใหญ่ยังเป็นดักแด้และน่าจะโตเต็มวัยในช่วงประมาณเดือน ส.ค.-ก.ย.นั้น นายณัฐพลบอกว่า เมื่อโตเต็มวัยจะมีผู้มาเลือกซื้อถึงที่บ้านหรือเพียงส่งรูปให้ดู ซึ่งสามารถขายได้ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับลักษณะสี รูปร่าง ขนาดตัว และเขาของด้วงกว่างแต่ละตัว
อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่ชื่นชอบด้วงกว่างบางรายจะมาเลือกซื้อตั้งแต่ช่วงที่เป็นดักแด้ เนื่องจากไม่ต้องการแย่งเลือกซื้อกับคนอื่น โดยเพียงพิจารณาจากพ่อพันธุ์ เพราะในการผสมพันธุ์จะมีการบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับสายพันธุ์ไว้
ทั้งนี้ นายณัฐพลระบุด้วยว่า ข้อดีอย่างหนึ่งของการเพาะขยายพันธุ์ได้เองนั้น ทำให้ได้ด้วงกว่างที่มีลักษณะดีและสวยงามอย่างที่ต้องการ เพราะสามารถคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้ ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าการที่สามารถเพาะขยายพันธุ์ด้วงกว่างได้ ช่วยสร้างรายได้เสริมให้ได้จำนวนหนึ่งนอกเหนือจากงานประจำ แต่ไม่ได้มากมายแต่อย่างใด เพราะด้วงกว่างที่ขยายพันธุ์ได้นั้นไม่ได้ขายทั้งหมด แต่จะมีการเลือกเก็บไว้เองด้วยเพื่อนำไปร่วมประกวดและแข่งขัน รวมทั้งเก็บไว้เป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์สำหรับปีต่อๆ ไปด้วย เพราะเป็นความชื่นชอบส่วนตัว ซึ่งหากมีผู้สนใจเพาะขยายพันธุ์ยินดีที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ด้วย
ด้านนายไวฑูรย์ เจนแพทย์ อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ที่เดินทางมาเลือกซื้อพ่อพันธุ์ด้วงกว่างที่บ้านของนายณัฐพล เปิดเผยว่า เพิ่งเริ่มต้นศึกษาและทดลองเพาะขยายพันธุ์ด้วงกว่างปีนี้เป็นปีที่ 2 เนื่องจากมีความชื่นชอบและเห็นว่าด้วงกว่างที่เพาะขยายพันธุ์ได้มีความสวยงามและลักษณะดีกว่าในธรรมชาติ อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวเองยังคงต้องศึกษาและพัฒนาอีก ซึ่งถือเป็นความท้าทายในการที่จะเพาะขยายพันธุ์ให้ได้ด้วงกว่างที่มีความสวยงามและลักษณะดีเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จ
