ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวบุคคล ก่อนมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ด้านทีมผู้เชี่ยวชาญกรมการบินพลเรือนยังค้นหาซากชิ้นส่วนสำคัญในที่เกิดเหตุเพื่อหาปมเหตุทำเครื่องดิ่งพื้น
วันนี้ (19 ก.ค.) เวลา 08.50 น. ที่ห้องรับรอง ท่าอากาศยานขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย ว่าที่ ร้อยตรี อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานขอนแก่น รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ แบบยูโรคอปเตอร์ รุ่น AH 355 ตก บริเวณกลางทุ่งนาบ้านหูลิง ต.วังแสง อ.ชนบท ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย
นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์ลำที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นการเช่าของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีขึ้นจากทุ่งทานตะวัน จ.สระบุรี เพื่อมารับผู้สื่อข่าว ณ สนามบินขอนแก่น ก่อนจะเดินทางไปรายงานข่าวปัญหาพนังกั้นน้ำทรุดพังที่ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด แต่ระหว่างทางประสบเหตุเสียก่อน มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย นายเสกสรร วันนา นักบิน, พ.ต.อ.สินสมุทร สินเพทา ผู้ช่วยนักบิน, นายสมเนา น้อยสกุล และนายรณกิจ เพชรนิล ผู้โดยสาร
โดยศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้ถูกลำเลียงไปเก็บไว้ที่ภาควิชานิติเวช คณะแพทยศาสตร์ มข.เป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
ในขณะที่จุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกนั้น ในวันนี้คณะผู้เชี่ยวชาญกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคมยังคงลงพื้นที่ตรวจสอบซากเฮลิคอร์ปเตอร์ต่ออีก 1 ถึง 2 วัน เพื่อหาชิ้นส่วนหลักฐานนำไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวอย่างละเอียด คาดว่าจะใช้เวลานานพอสมควรถึงจะสามารถสรุปปมเหตุของการเปิดอุบัติเหตุครั้งนี้
ด้าน รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข. ระบุว่า ภายหลังร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายลำเลียงมาเก็บไว้ห้องเก็บศพแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยศพถูกห่อแยกเป็น 4 ศพตามหลักฐานเสื้อผ้าและบัตรประชาชนที่พบในที่เกิดเหตุและญาติเชื่อว่าเป็นศพของผู้เสียชีวิตแต่ละราย อย่างไรก็ตาม ได้ขอดีเอ็นเอของญาติแต่ละคนเพื่อนำมาเปรียบเทียบพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล
“คาดว่าจะใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ในการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพราะผลการตรวจดีเอ็นเอถือเป็นหลักฐานสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันตัวบุคคล เป็นหลักฐานสำคัญมากที่ต้องนำไปประกอบในการเรียกร้องสิทธิกับบริษัทประกันภัย” นพ.ชาญชัยกล่าว
ภายหลังเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิตและญาติเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางญาติก็สามารถติดต่อขอรับศพนำไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาได้ต่อไป
