xs
xsm
sm
md
lg

เดือดร้อนหนักมาก! ชาวชัยภูมินับร้อยวอนรัฐเร่งช่วย ถูกสาวลูกจ้าง “กทบ.” ตุ๋นร่วมทุนสูญกว่า 120 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชัยภูมิ - ชาวชัยภูมินับร้อยใน 3 อำเภอวอนรัฐเร่งช่วย ถูกสาวใหญ่ลูกจ้างอ้างเป็น จนท. “กทบ.” ตุ๋นร่วมลงทุนปล่อยกู้ผ่านกองทุนหมู่บ้าน สุดท้ายเชิดหนีสูญกว่า 120 ล้าน เผยเดือดร้อนหนักหอบเงินสะสมมาทั้งชีวิต นำรถ บ้าน ที่ดินไปจำนองไฟแนนซ์ กู้แบงก์มาทุ่มลงทุนหวังผลตอบแทนสูงจนหมดตัว บางรายสูญกว่า 4 ล้าน ล่าสุดตำรวจรวบสาวแสบได้แล้ว



วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนกว่า 70 หมู่บ้านใน 3 อำเภอ จ.ชัยภูมิ ประกอบด้วย อ.หนองบัวแดง, อ.เกษตรสมบูรณ์ และ อ.ภักดีชุมพล พากันมารวมตัวที่ศาลาประชาคมของอำเภอหนองบัวแดง และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หนองบัวแดง ก่อนเข้ายื่นเอกสารร้องทุกข์ต่อตัวแทนเจ้าหน้าที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) จังหวัดชัยภูมิ กรณีถูก นางหนูคิด พลธรรม อายุ 50 ปีลูกจ้างประจำกองทุนหมู่บ้านเครือข่ายอำเภอหนองบัวแดง อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ กทบ. หลอกให้ชาวบ้านมาทำสัญญาร่วมลงทุนรายละ 200,000-5,000,000 บาท เพื่อเข้าร่วมโครงการของกองทุนหมู่บ้านที่อ้างว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อจะได้นำไปปล่อยกู้ให้กับกองทุนหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ที่ขาดสภาพคล่องไม่สามารถเก็บเงินจากสมาชิกจากกองทุนในหมู่บ้านได้ครบและไม่สามารถปิดงบดุลประจำปีได้


โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงกว่าเท่าตัว ซึ่งจะมีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยสูงร้อยละ 3-10 ต่อสัปดาห์ ใครลงทุน 200,000 บาทจะได้ผลตอบแทนกลับมา 400,000 บาท ลงทุน 1,500,000 บาท จะได้มากกว่า 3,000,000 บาท และหากลงทุนมากกว่า 3,000,000 บาท จะได้ผลตอบแทนกว่า 6,000,000 บาท

จนมีประชาชนถูกหลอกและหลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนดังกล่าวเป็นจำนวนมากกว่า 3 อำเภอ เช่น อ.หนองบัวแดง, อ.เกษตรสมบูรณ์ และ อ.ภักดีชุมพล มีผู้เสียหายมากกว่า 70 ราย เบื้องต้นรวมมูลค่าความเสียหายจากการถูกหลอกร่วมลงทุนครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท

ทั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้นำเงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตมาร่วมลงทุนจนหมดตัว บางคนนำรถยนต์ไปเข้าบริษัทไฟแนนซ์ และหลายคนนำบ้าน ที่ดินไปจำนองธนาคารเพื่อนำเงินมาร่วมลงทุนครั้งนี้ เพราะหวังกำไรตอบแทนที่ล่อตาล่อใจเป็นจำนวนมากดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังนำเงินไปทำสัญญาร่วมลงทุนตั้งแต่เดือน พ.ค. 2651 เป็นต้นมา ล่าสุดช่วงตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาลูกจ้างกองทุนหมู่บ้านฯ รายนี้กลับติดต่อไม่ได้และหายตัวไปพร้อมกับเงินลงทุนจำนวนมากกว่า 120 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านที่ร่วมลงทุนต่างเริ่มเดือดร้อนหนักเพราะธนาคาร ไฟแนนซ์ ที่ไปกู้ยืมเงินมาลงทุนเริ่มทวงหนี้เพราะขาดส่งงวดหลังจากเกิดเรื่องติดต่อลูกจ้างกองทุนหมู่บ้านฯ รายนี้ไม่ได้


นายบุญเรือง ไชยสงค์ อายุ 64 ปี อดีตประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอหนองบัวแดง เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวได้มารวมตัวกันเป็นครั้งที่ 2 แล้วเพื่อมาทวงถามความคืบหน้ากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและอำเภอหนองบัวแดง หลังได้พากันทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาได้เริ่มรวมตัวกันเดินทางไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบัวแดง จนนำไปสู่การจับกุม นางหนูคิด พลธรรม อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171 ม.4 ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ผู้ถูกกล่าวหาได้แล้ว และขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างการฝากขังผัดที่ 2 ที่ศาลจังหวัดภูเขียว

โดยการมารวมตัวกันในครั้งนี้อีก เนื่องจากพวกเรากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเนื่องจากแต่ละรายเริ่มถูกทวงถามหนี้จากธนาคารและบริษัทไฟแนนซ์ที่ชาวบ้านไปกู้เพื่อนำเงินมาร่วมลงทุน และไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาคืนให้ได้ และประเด็นสำคัญคือ ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือมาช่วยชาวบ้านอย่างเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด จึงได้รวมตัวกันอีกครั้งเพื่อยื่นเอกสารให้กับตัวแทนเจ้าหน้าที่กองทุนหมู่บ้าน จ.ชัยภูมิ ให้ส่งตัวแทนมาพบอีกครั้งเพื่อฝากวิงวอนไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โปรดช่วยชาวบ้านในครั้งนี้ด้วย เพราะมีการแอบอ้างโครงการของรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วย

นอกจากนี้ยังมีขบวนการเริ่มมีการวิ่งเต้นให้ชาวบ้านไปถอนแจ้งความดำเนินคดีต่อ นางหนูคิด พลธรรม ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กทบ.เพื่อให้ยุติเรื่องที่เกิดขึ้น และยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ รวมมูลค่าความเสียหายอีกทั้งหมดจำนวนมากกว่า 100 ล้านบาท

ด้าน นางชิราวรรณ ทิพย์สงค์ อายุ 64 ปี ข้าราชการครูบำนาญหนึ่งในผู้เสียหายที่ได้สูญเสียเงินไป 8.5 แสนบาท หลังถูกชักชวนจากผู้ต้องหารายนี้ให้นำเงินมาร่วมลงทุนปล่อยกู้โดยได้ทำสัญญากู้ยืมเงินกันที่สำนักงานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านอำเภอหนองบัวแดง ซึ่งไม่เคยคาดคิดว่าจะถูกหลอกทำให้สูญเงินก้อนสุดท้ายที่ได้รับจากเงินบำนาญที่เก็บไว้ใช้ในยามชราภาพ ขณะนี้ทำให้มีปัญหาภายในครอบครัวตามมาอีก และนำพาให้ทุกคนในครอบครัวเดือดร้อนตามไปด้วย

ส่วนผู้เสียหายอีกรายที่สูญเงินก้อนใหญ่กว่า 4.5 ล้านบาท คือ นายเอนก ตั้งทรัพย์ อายุ 45 ปี กล่าวว่า ขณะนี้ตนและชาวบ้านเกือบ 70 รายที่ถูกหลอกให้นำเงินไปลงทุนปล่อยเงินกู้กับ นางหนูคิด พลธรรม ผู้ต้องหารายนี้ ตอนนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากและเริ่มมีปัญหาครอบครัวที่ไม่เข้าใจ รวมทั้งธนาคาร บริษัทไฟแนนซ์ เริ่มมีหนังสือทวงถามหนี้เพราะขาดส่งเงินค่างวดที่ได้ไปกู้เงินมาลงทุนในครั้งนี้

ล่าสุด นายศุภมิตร ชลประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการความรู้และสารสนเทศ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ได้เดินทางมารับฟังปัญหาและรับหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจากกลุ่มชาวบ้านผู้เสียหาย และรับปากในเบื้องต้นว่าจะเร่งดำเนินการตรวจสอบให้เร็วที่สุดเพื่อเสนอหาแนวทางช่วยเหลือผู้ถูกหลอกจากลูกจ้าง กทบ.ในครั้งนี้เป็นการด่วนต่อไป

ทางด้าน ร.ต.อ.ปิยะพงษ์ ธาราวดี พนักงานสอบสวน สภ.หนองบัวแดง เจ้าของคดี กล่าวว่า ในส่วนของคดีนั้น ทาง พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการสอบสวนจนสามารถจับกุมนางหนูคิด พลธรรม ผู้ถูกกล่าวหารายนี้ได้แล้ว และกำลังเร่งสอบสวนปากคำและพยานต่างๆ ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดภูเขียวฝากขังเป็นผัดที่ 2 แล้ว และพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ตัวผู้ต้องหาจึงถูกฝากขังที่เรือนจำภูเขียว

ขณะนี้มียอดผู้เสียหายที่ทยอยเดินทางเข้าแจ้งความแล้วทั้งหมดจำนวน 32 ราย ยอดความเสียหายเบื้องต้นสูงกว่า 42,834,000 บาท ซึ่งยังมีผู้เสียหายที่ยังไม่เข้าแจ้งความอีกเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายแยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของเฉพาะรายบุคคลจะมีสัญญาเงินกู้ และส่วนของเงินกองทุนของแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ต้องหาในข้อหาเบื้องต้น คือ ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ผู้อื่นได้รับความเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก




กำลังโหลดความคิดเห็น