xs
xsm
sm
md
lg

“อวยชัย” แจงคลิปร้อนครูเบี้ยวหนี้ เหตุรับภาระดอกเบี้ยหนักอึ้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพในคลิปเหตุการณ์ ประกาศปฏิญญามหาสารคาม  เมื่อ 14กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมเธียเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม
มหาสารคาม - “อวยชัย” ประธานเครือข่ายครู แจงคลิปพักชำระหนี้ครู เหตุแผนกู้เงินสถาบันการเงินช่วยเพื่อนครูไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ครูกลับสร้างความร่ำรวยให้สถาบันการเงิน ทั้งแบกภาระดอกเบี้ยหนักอึ้ง แต่ร้องพักหนี้ 6 เดือน ลดดอกเบี้ย



ภายหลังจากที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอที่ประกาศปฏิญญามหาสารคาม ความว่า ข้อ 1. ขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้โครงการสวัสดิการเงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ข้อ 2 ลูกหนี้ ช.พ.ค.จำนวน 450,000 คน จะยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไปนั้น สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างถึงความไม่เหมาะสมที่แม่พิมพ์ของชาติสามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่
นายอวยชัย วะทา ประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย
ล่าสุดนายอวยชัย วะทา ประธานเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คลิปที่เผยแพร่ออกไปเป็นการประชุมผู้นำเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมเธียเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม โดยตนเองเป็นคนแถลงต่อที่ประชุมว่า เมื่อปี 2552 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้ทำข้อตกลงกับธนาคารออมสิน เพื่อให้สมาชิก ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. กู้เงินจากธนาคารออมสินรายละไม่เกิน 3 ล้านบาท มีกำหนดผ่อนชะระ 30 ปี หรือ 360 งวด

มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ใช้หนี้สถาบันการเงินและหนี้นอกระบบ 2. เพื่อซื้อบ้านหรือสร้างที่อยู่อาศัย 3. เพื่อซื้อรถยนต์หรือยานพาหนะ 4. เพื่อซื้อหุ้นหรือลงทุนทำธุรกิจ 5. เพื่อใช้จ่ายในการศึกษาหรือธุรกรรมที่จำเป็นอื่นๆ โดยมีข้าราชการครู คณาจารย์และบุคลากรสังกัดกระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมโครงการประมาณ 450,000 คน วงเงินกว่า 4 แสนล้านบาท แต่ช่วยเพื่อนครูตามโครงการดังกล่าวกลับไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้เพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาเดือดร้อนแบกรับภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก

นายอวยชัยกล่าวต่อว่า การคิดดอกเบี้ยของธนาคารออมสิน สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับเพื่อนครู คิดอัตราดอกเบี้ยในอัตราสูงเหมือนธนาคารพาณิชย์ และปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ หักเงินจากผู้กู้แต่ละเดือนเป็นค่าดอกเบี้ยแทบทั้งหมด หักค่าดอกเบี้ยครบก่อนแล้วจึงหักเงินต้น ทำให้ผู้กู้เสียค่าดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 เท่าของเงินต้น ในระยะเวลานานถึง 30 ปี ยกตัวอย่างตนกู้เงินมา 1.2 ล้านบาท หักเงินเดือนละกว่า 7,000 บาท ซึ่งส่งเงินมาแล้วระยะเวลา 7 ปี เงินต้นลดลงเพียง 100,000 บาท ยอดหนี้ยังอยู่ที่ 1.1 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังบังคับให้ทำประกันชีวิตอ้างว่าเพื่อประกันความเสี่ยงของธนาคารออมสิน โดยบังคับหักเงินค่าประกัน 10 ปี งวดเดียว 80,000-200,000 บาท รวมแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท โดยผู้กู้ไม่ได้รับประโยชน์หรือดอกผลจากเงินจำนวนดังกล่าวเลย แต่ผู้ได้รับประโยชน์มหาศาลคือ บริษัทประกัน ธนาคารออมสิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ สกสค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีโครงการระดมทุน หรือโครงการร่วมทุนจากผู้กู้ ครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาเพื่อหารายได้เพิ่ม หรือหาทางปลดเปลื้องหนี้สิน และเพิ่มพูนรายได้อย่างเป็นระบบ นอกจากโครงการขายบ้าน ขายรถ ขายประกัน และโครงการส่งเสริมการเป็นหนี้อื่นๆ ยิ่งสร้างภาระหนี้สินทับซ้อนอีก

ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวมีนายตวง อันทะไชย ประธานกรรมาธิการการศึกษาและกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เดินทางมารับหนังสือข้อเรียกร้องจากองค์กรครู โดยพี่น้องเครือข่ายครูขอเรียกร้องให้ 1. ให้ดำเนินการพักหนี้ครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการ ช.พ.ค.โดยเร่งด่วน 2. รัฐบาลประกาศพักหนี้ครูเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากนั้นให้ลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 1 เหมือนเกษตรกร 3. ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติและรัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญและคณะกรรมการร่วมแก้ไขปัญหาหนี้สินครู พร้อมทั้งประกาศเป็นวาระแห่งชาติภายในเดือนตุลาคม 2561 นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น