ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อยที่เชียงใหม่ เผยนักเสี่ยงโชคแห่เลือกซื้อเลขดัง “13 หมูป่า” หมดเกลี้ยง แต่โคตรเซ็งแทบไม่แตะเลขอื่นจนเหลือเต็ม ระบุดูเหมือนคนจะคึกคักแต่ยอดขายซบเซา
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า บรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 ก.ค. 61 ตามแผงขายของผู้ค้ารายย่อยในตัวเมืองเชียงใหม่ ขณะนี้พบว่ามีประชาชนที่ชื่นชอบการแสวงโชคให้ความสนใจเลือกซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกันอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการซื้อขายดูเหมือนจะคึกคักเพราะมีผู้คนแวะเวียนและเลือกดูสลากกินแบ่งรัฐบาลตามแผงต่างๆ อยู่ตลอด แต่จากการสำรวจพบว่าตามแผงต่างๆ ยังคงมีสลากกินแบ่งรัฐบาลเหลือวางขายเป็นจำนวนมาก บางรายเหลือแทบจะเต็มแผงที่วางเรียงไว้
จากการสอบถามผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อยรายหนึ่งย่านตลาดรวมโชค ในตัวเมืองเชียงใหม่ บอกว่า งวดนี้บรรยากาศการซื้อขายดูเหมือนจะมีความคึกคักกว่าหลายงวดที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหตุการณ์นักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่า อะคาเดมี รวมทั้งหมด 13 คน ที่ทำให้มีเลขดังหลายเลข เช่น 13 เลขจำนวนคนที่ติดอยู่ในถ้ำ, 23 เลขวันที่เด็กเข้าไปในถ้ำ, 17 เลขจำนวนวันที่ติดอยู่ในถ้ำ, 38 เลขอายุของจ่าเอก สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีล ที่เสียชีวิตจากการเข้าร่วมภารกิจช่วยเหลือ และ 45 หรือ 54 เลขจำนวนเด็กที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาวันละ 4 คน 4 คน และ 5 คน ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของยอดขายแล้วต้องถือว่าไม่ได้คึกคักแต่อย่างใด เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ต่างพากันเลือกซื้อแต่เฉพาะเลขดังแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น จนหมดเกลี้ยงไปจากแผง ในขณะที่เลขอื่นๆ ยังคงเหลืออยู่เต็มแผงเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน ปัจจัยอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้การซื้อขายไม่คึกคักเป็นเพราะผู้คนส่วนใหญ่ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น รวมทั้งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องใช้จ่ายเงินไปแล้วเป็นจำนวนมากในช่วงเปิดภาคเรียนที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน
สำหรับราคาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น ผู้ค้ารายเดียวกันนี้บอกว่า หากเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลใบเดี่ยวขายราคา 80 บาท ซึ่งได้กำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะราคาต้นทุนที่รับมาจากยี่ปั้วสูงถึงใบละ 76-78 บาท และยังต้องมารับความเสี่ยงขาดทุนอีกหากขายไม่หมด ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เป็นชุดนั้น ยอมรับว่ายังมีการนำมาขายอยู่ราคาใบละ 100 บาท จากราคาต้นทุนที่ได้มาใบละ 90-95 บาท โดยที่ต้องนำมาขายเพราะเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากกว่า และทำให้พอจะมีกำไรจากการขายได้บ้างในแต่ละงวด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจในเรื่องนี้ดี และยินดีที่จะจ่ายเงินซื้อในราคาดังกล่าว
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเสี่ยงกับการถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดี และที่ผ่านมาเคยโดนจับพร้อมทั้งเสียค่าปรับครั้งละ 5,000 บาทไปแล้วหลายครั้ง แต่จำเป็นต้องทำเพราะเป็นอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว โดยอยากจะเรียกร้องไปยังรัฐบาล และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเหตุใดไม่มีการจับกุมยี่ปั๊วที่ขายสลากเกินราคาบ้าง และหากต้องการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาอย่างจริงจัง ทำไมไม่จัดสรรสลากให้ผู้ค้าที่ทำเป็นอาชีพจริงๆ ไม่ใช่แค่คนรับจ้างยี่ปั๊วไปเข้าแถวหน้าตู้เอทีเอ็มเพื่อจองซื้ออย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้