ร้อยเอ็ด - พ่อและแม่ของ จ.อ.สมาน กุนัน ร่ำไห้เสียใจลูกชายเสียชีวิต บอกยังทำใจไม่ได้เพราะลูกชายเพิ่งโทร มาหาเมื่อเช้าวานนี้ (5 ก.ค.) ทั้งยังบอกว่าจะกลับบ้าน 15 ก.ค.นี้แล้วค่อยทำกับข้าวเลี้ยงฉลองกัน เผยเตรียมตั้งศพสวดพระอภิธรรมที่วัดบ้านหนองคู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันนี้ (6 ก.ค.) ที่บ้านเลขที่ 44 บ.หนองคู ม.3 ต.เมืองหงส์ อ.จตุรพักตร์พิมาน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของ จ.อ.สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการที่เสียชีวิตขณะร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือหมูป่า 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติพี่น้องและตัวแทนหน่วยงานราชการเดินทางไปปลอบใจพ่อและแม่ของ จ.อ.สมานอย่างไม่ขาดสาย
ขณะเดียวกัน เพื่อนบ้านก็ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่จัดงานสวดพระอภิธรรม โดยศพจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหนองคู ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน
นายวิชัย กุนัน อายุ 62 ปี นางสำราญ กุนัน อายุ 63 ปี พ่อและแม่ของ จ.อ.สมานเล่าทั้งน้ำตาว่า คาดไม่ถึงว่าลูกชายจะมาเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ ทำใจไม่ได้ เพราะเมื่อวานนี้ (5 ก.ค.) เวลาประมาณ 07.00 น. ลูกชายเพิ่งโทรศัพท์มาคุยด้วย ลูกชายบอกว่า “ตอนนี้ผมกำลังมาช่วยเหลือน้องๆ ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผมเคยเป็นหน่วยซีล (Seal) มาก่อน เคยช่วยเหลือคนมาแล้ว พ่อแม่ไม่ต้องห่วง ผมสบายดี วันที่ 15 ก.ค.นี้ผมจะกลับบ้านเราแล้ว
นอกจากนี้ จ.อ.สมานยังบอกอีกว่าถ้าสะดวกแล้วจะรีบโอนเงินให้แม่ 9,000 บาทเพื่อให้เอาไปซื้ออาหารไก่งวง เพราะที่บ้าน จ.อ.สมานทำฟาร์มไก่งวงขาย ตอนนี้มีมากกว่า 300 ตัว เมื่อกลับถึงบ้านจะขายไก่งวงแล้วค่อยทำกับข้าวเลี้ยงฉลองกินพร้อมหน้าพร้อมตากัน หลังจากนั้นค่อยซื้อลูกไก่งวงมาเลี้ยงใหม่
นายวิชัยบอกอีกว่า เพิ่งรู้ข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตเมื่อเช้าวันนี้ (6 ก.ค.) นี่เอง ตอนแรกก็ไม่รู้ แต่น้าสาวของจ.อ.สมานได้มาที่บ้านบอกว่าให้ไปขอแรงเพื่อนบ้านมาช่วยกันเก็บกวาดบ้านให้เรียบร้อยเพราะจะมีคนมาเยอะ ตนแปลกใจว่าทำไมต้องเก็บกวาดบ้าน ก็ไม่ยอมบอกอะไร จึงคาดคั้นให้อธิบายว่าเพราะอะไร
หลังจากนั้นน้าสาวจึงยอมบอกว่าลูกชาย จ.อ.สมาน เสียชีวิตแล้วที่เชียงรายขณะดำน้ำเข้าไปในถ้ำหลวง
ด้าน นางสุขใจ บุญเหลี่ยม อายุ 52 ปี น้าสาว จ.อ.สมาน บอกว่าไม่อยากเชื่อว่าการคุยกันในวันนั้น จะเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย แล้วจะไม่ได้พบกันอีก รู้สึกเสียใจ แต่ก็ภาคภูมิใจในความเสียสละ ของหลานชาย ที่ชอบช่วยคน และบำเพ็ญ ประโยชน์เพื่อผู้อื่น มาโดยตลอด ซึ่งหลังได้รับแจ้งว่าหลานชายเสียชีวิต ก็ได้ให้ญาติญาติ ที่อยู่กรุงเทพ และภรรยาของหลาน เดินทางลงไปรับศพ เพื่อนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยยังไม่ได้กำหนดว่า จะตั้งศพบำเพ็ญกุศล กี่วัน หรือนานเท่าไหร่
ทั้งนี้ จะมีการกำหนดการอีกครั้ง หลังจากรับศพมาถึงบ้านแล้ว จึงจะมีการวางแผน ตกลงกันต่อไป
