ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - คนเชียงใหม่ร่วมกิจกรรมเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ รวมพลังทวงสัญญา “ป่าแหว่ง” พร้อมใจตั้งจิตอธิษฐานช่วย 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนให้ปลอดภัย ก่อนอ่านแถลงการณ์เรียกร้องศาลรักษาสัจจะ และจัดพิธีอัญเชิญผี
วันนี้ (30 มิ.ย. 61) หอประชุมโรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพจัดกิจกรรมรวมพลังคนเชียงใหม่ เพื่อทวงถามสัญญาการแก้ไขปัญหาโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชิงดอยสุเทพ
ก่อนเริ่มกิจกรรมผู้เข้าร่วมได้พร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐานภาวนาเพื่อขอให้นักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนรวม 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 61 ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันยังได้มีการนำผ้าสีเขียวและสติกเกอร์มาวางเรียงเป็นรูปหัวใจและเรียงกันเป็นเลข 13 เพื่อเป็นสัญลักษณ์การส่งแรงใจไปช่วยทั้ง 13 คนด้วย
จากนั้นมีการแสดงดนตรีของกลุ่มศิลปินล้านนาและองค์กรเครือข่าย โดยเฉพาะการร้องเพลงมหากาพย์โองการสาปแช่งแห่งแดนดอยที่ทางกลุ่มศิลปินล้านนาร่วมกันแต่งขึ้นและทำการขับร้องเพื่อทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ จากโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เสร็จแล้วทางเครือข่ายได้มีการพูดคุยแจ้งความคืบหน้าและสถานการณ์ปัญหาให้ผู้เข้าร่วมทราบ และมีการอ่านแถลงการณ์ของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เรื่อง “ศาลยุติธรรมต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่เสียคำสัตย์ ร่วมแก้ปัญหาป่าแหว่งอย่างจริงใจ” เพื่อทวงสัญญาตามข้อตกลงในการร่วมกันแก้ไขปัญหา ทั้งการผิดสัญญาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ และการปล่อยให้มีผู้เข้าไปอยู่อาศัยในโครงการ
เมื่อเสร็จแล้วทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมด้วยคนเชียงใหม่จำนวนมากที่ร่วมกิจกรรมรวมพลังในครั้งนี้ได้ตั้งขบวนอัญเชิญเครื่องบวงสรวง พร้อมชูป้ายข้อความทวงสัญญาการแก้ไขปัญหาและผ้าสีเขียวผืนยาวที่เป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์ ออกเดินจากโรงเรียนนวมินทราชูทิศ พายัพ ไปยังบริเวณเนินดินที่อยู่ติดริมรั้วโครงการบ้านพักข้าราชการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อประกอบพิธีกรรมตามแบบล้านนาโบราณอัญเชิญผีอารักษ์ 32 ตนที่ปกปักรักษาป่า ขุนเขาและลำห้วย มาสิงสถิตในบ้านพัก ,อาคารชุด และพื้นที่โครงการ
สำหรับแถลงการณ์ทวงสัญญาบ้านป่าแหว่งของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพนั้นมีเนื้อหาโดยสรุปว่า ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับประชาชนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเมื่อ 6 พ.ค. 61 เกิดขึ้นหลังจากโฆษกศาลยุติธรรมประกาศย้ำต่อนายกรัฐมนตรีและฝ่ายบริหารที่จะต้องแก้ปัญหาว่า “จะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไป หากได้ผลประการใด ทางสำนักงานศาลยุติธรรมก็ไม่ขัดข้อง” แต่คำแถลงของโฆษกศาลยุติธรรมดังกล่าวไม่เกิดขึ้นจริง ด้วยยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและธุรการจำนวนหนึ่งไม่ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) เพิกเฉยไม่ร่วมมือกับแนวทางแก้ปัญหาของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมิให้มีผู้ใดเข้าพักอาศัยในแนวเขตป่าดั้งเดิม ทั้งไม่ให้ยอมให้อนุกรรมการภาคประชาชนเข้าสำรวจพื้นที่ตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ รวมถึงไม่ร่วมมือส่งเอกสารตามที่คณะกรรมการร้องขอ
โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการที่ล้ำผืนป่าสมบูรณ์ขึ้นไปเป็นทัศนะอุจาดต่อดอยสุเทพและนิเวศวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่ เป็นเรื่องสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วประเทศ แต่ทว่าสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรมจงใจเพิกเฉย ไม่ประกาศบอกกล่าวหลังจากครบกำหนดสัญญาก่อสร้าง 18 มิ.ย. 61 ทั้งๆ ที่มีการต่ออายุสัญญามาก่อนแล้วเกือบ 3 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ขณะที่ อบต.ดอนแก้ว ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่แทนประชาชนในท้องถิ่นขอแบบแปลนก่อสร้างก็ยังไม่ได้ ทั้งๆ ที่กฎกระทรวงออกตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร กำหนดให้ต้องส่งแบบแปลนแจ้ง อบต.ท้องที่ล่วงหน้าก่อนการก่อสร้าง ไม่บอกกล่าวประชาชน ไม่แยแสสนใจว่าสาธารณะคิดเช่นไร แถมยังไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเสียเอง
ทั้งนี้ สังคมเริ่มไม่มั่นใจต่อคำประกาศว่าโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการ “บ้านป่าแหว่ง” ดำเนินอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้น ที่แท้ถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ หรือว่ายังปิดบังซุกซ่อนหรือมีความผิดพลาดปิดบังซ่อนอยู่ ซึ่งคณะบุคคลบางกลุ่ม-บางคนในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมที่ยังขัดขวางกระบวนการแก้ปัญหาป่าแหว่งกำลังทำให้สถาบันตุลาการเสื่อมเสียภาพลักษณ์ ก่อให้เกิดความมัวหมอง และอาจจะนำมาซึ่งความเสียหายใหญ่หลวงจากการดำเนินการผิดพลาดของตน โดยเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพขอเรียกร้องให้ (ก.บ.ศ.) ได้โปรดตรวจสอบ สั่งการ และดำเนินการ ดังต่อไปนี้
ประการแรก ให้สำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรมตลอดถึงฝ่ายปฏิบัติที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้จัดส่งแบบแปลนก่อสร้างและเอกสารแผนผังเกี่ยวข้องต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามที่กฎหมายบัญญัติโดยเร็ว ไม่ยื้อ ไม่ถ่วงเวลา และให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าหลังสิ้นสุดสัญญาก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการเชิงดอยสุเทพ เพราะเป็นสิทธิที่ประชาชนต้องได้รู้ตามกฎหมายบัญญัติ ซึ่งศาลต้องไม่ละเมิดกฎหมายเสียเอง