ห่วงราคาข่าเหลืองตกต่ำ แนะแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ห่วงราคาข่าเหลืองตกต่ำ หลังนายทุนขายพันธุ์ส่งเสริมเกษตรกรปลูกเกินความต้องการตลาด นักวิชาการแนะแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งสบู่ก้อน ครีมบำรุงผิว ทั้งตากแห้งส่งตลาดจีน

เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องประชุมกวี จุติกุล คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยเครือข่ายเกษตรกร จัดฝึกอบรมเรื่อง “ข่าเหลือง ตลาดแปรรูป และระบบน้ำโซล่าเซลล์” เพื่อให้ความรู้ด้านการทำการเกษตร ตลาดและการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยมีเกษตรกรในพื้นที่จ.ขอนแก่น และจ.ใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

ผศ.ดร.ไกรเลิศ ทวีกุล อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ข่าเหลืองมีความแตกต่างจากข่าทั่วไป คือมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า สามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบส่วนผสมประกอบอาหาร ในเครื่องแกงหรือน้ำพริกต่างๆ อาทิ ต้มข่า ต้มยำ ผัดเผ็ด และได้รับความนิยมจากร้านอาหารเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรปลูกข่าเหลืองเพิ่มขึ้น


“การขับเคลื่อนปลูกข่าเหลืองในภาคอีสานและภาคเหนือ มีศูนย์กลางการตลาดที่จ.ขอนแก่น ตั้งแต่ปี 2557 เป็นเวลากว่า 3 ปีกว่า มูลค่าการตลาดเริ่มตั้งแต่ระดับ 53.4 ล้านบาทต่อปี จนขยายตัวถึง 300 ล้านบาทในปี 2560 ด้วยการขับเคลื่อนที่เป็นระบบ มีเครือข่าย มีสมาชิก ควบคุมพื้นที่ปลูก ผลิตตามคำแนะนำ ทำให้เกษตรกรที่ผลิตข่าเหลืองได้ตามคุณภาพความต้องการตลาด มีรายได้ดีและแน่นอน”ผศ.ดร.ไกรเลิศ กล่าวและว่า

ทำให้นักลงทุนหลายคน เห็นช่องทางธุรกิจ หันมาจำหน่ายพันธุ์ข่าเหลืองกระจายทั่วอีสาน จึงมีเกษตรกรปลูกมาก แต่กลับไม่รับซื้อคืน หรือรับซื้อคืนในราคาที่ต่ำลงมา และขายได้ในราคาต่ำ จนกระทบกับตลาดที่เคยเชื่อมโยงกับการผลิต อีกทั้งมีข่าเหลืองคุณภาพต่ำตีตลาด กระทบต่อกลไกตลาดข่าเหลืองคุณภาพ ทำให้เกษตรกรมองหาพืชชนิดอื่นมาปลูกแทน

ผศ.ดร.ไกรเลิศ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ด้านราคาข่าเหลือง ณ ปัจจุบัน มีราคาที่ตกต่ำลงมาก เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางออกของการแก้ปัญหาราคาข่าเหลืองตกต่ำ คือการนำข่าเหลืองไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งสบู่ ครีมบำรุงผิว รวมถึงการทำข่าเหลืองตากแห้ง เพื่อส่งออกไปยังตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ข่าเหลือง มีกลไกด้านราคาดีขึ้น

ทั้งนี้คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พยายามช่วยเกษตรกรแก้ปัญหา ด้านราคาข่าเหลืองที่ตกต่ำ ด้วยการจัดเวทีอบรม โดยเชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนักวิชาการ ผู้ประกอบการ เกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จ มาอบรมให้ความรู้ ชี้แนวทางการผลิต การตลาด การแปรรูป พืชผลการเกษตรที่มีตลาด ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการจัดการเพาะปลูกข่าเหลืองและพืชเกษตรอื่นได้