xs
xsm
sm
md
lg

จับได้อีก! คาด่านหนองคาย เสี่ยขับเบนซ์ขนเงิน 30 ล้านบาทเข้าลาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หนองคาย - ศุลกากรหนองคายรวบคาด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว เสี่ยขนเงิน 30 ล้านบาทใส่ถุงผ้าวางซ่อนในรถเบนซ์ คาดทำเป็นขบวนการลักลอบขนเงินออกนอกประเทศ ขณะเจ้าตัวสารภาพส่วนหนึ่งเป็นเงินต้องนำไปจ่ายค่าก่อสร้างในลาว แต่เงินส่วนใหญ่เป็นเงินที่รับจ้างขนออกนอกประเทศ

เมื่อเวลาประมาณ 09.12 น. วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย และตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้ร่วมกันจับกุมนายขันธ์ สารสุวรรณ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1017 หมู่ 21 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ขณะขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ E300 สีเทา ทะเบียน กค 6688 หนองคาย จะเดินทางออกนอกประเทศไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถพบถุงผ้ามีซิปเปิดปิด จำนวน 22 ใบ วางกระจายอยู่บนพื้นภายในห้องผู้โดยสารใช้แผ่นยางปูพื้นรถปิดทับไว้ และพนักวางแขนภายในรถ ซึ่งภายในถุงผ้ามีธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท เบิกจากธนาคารต่างๆ ใบละประมาณ 6 แสนบาท-1.8 ล้านบาท รวมจำนวน 30,185,000 บาท

นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เชื่อได้ว่าเป็นขบวนการต่อจากเมื่อเดือนธันวาคม 2560 ปีที่ผ่านมา ซึ่งศุลกากรหนองคายจับกุมได้ 98 ล้านบาท ในครั้งนี้มีพฤติการณ์นำเงินดอลลาร์สหรัฐมาแลกเป็นธนบัตรไทยจากธนาคารต่างๆ ในจังหวัดหนองคาย โดยรถยนต์คันนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าจับตาดูอยู่นานเป็นเดือน มีการเข้าออกประเทศผ่านด่านสะพานฯ บ่อยครั้ง

จนกระทั่งช่วงเย็นวานนี้ (28 มิ.ย. 61) สืบทราบว่ามีการนำเงินดอลลาร์สหรัฐเข้ามาแล้ว ตอนเช้าต้องมีการนำกลับประเทศลาวจึงติดตามจนสามารถจับกุมได้ ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น นายขันธ์ให้การว่าประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ สปป.ลาว โดยจะเอาเงินไปซื้อสินค้า ส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าประกันก่อสร้าง และยอมรับว่าเงินส่วนใหญ่เป็นเงินรับจ้างขน แต่ไม่ยอมบอกว่าขนให้ใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลต่อ

อย่างไรก็ตาม ทางศุลกากรมีรายชื่อขบวนการลักลอบขนเงินนี้อยู่ในมือแล้ว และจะพยายามจับกุมให้หมดทุกราย ซึ่งตาม พ.ร.บ.การแลกเปลี่ยนเงิน จำนวนเงินที่เกิน 2 ล้านบาท เงินจำนวน 2 ล้านเจ้าของเงินมีสิทธิ์แจ้งนำเงินออกได้ ถ้าเกินจำนวนนี้ต้องยึดสถานเดียว ไม่มีกรณีเป็นอื่น แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพหรือไม่อย่างไรศุลกากรก็ต้องยึดเงินทั้งหมด

จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นการซุกซ่อนเพื่อนำเงินออกนอกประเทศ

โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรจะทำการสอบสวนว่าผู้ต้องหาจะยอมรับสารภาพ ยอมระงับคดีในชั้นศุลกากร หรือหากต้องการต่อสู้คดีก็ต้องส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย พร้อมทั้งต้องแจ้งให้ ป.ป.ส.และ ปปง. ทราบเพื่อร่วมสอบสวนด้วยว่าเกี่ยวข้องกับเงินยาเสพติดหรือฟอกเงินหรือไม่ ส่วนเงินของกลางทั้งหมดจะนำไปฝากไว้ที่ธนาคารเพื่อความปลอดภัย

จากการประเมินสถานการณ์เมื่อครั้งจับกุมครั้งที่แล้วที่เป็นสองพี่น้องชาวลาวขนเงินจำนวน 98 ล้านบาท ทราบว่าขบวนการลักลอบขนเงินมีหลายกลุ่ม ทุกกลุ่มทราบถึงการดำเนินการจับกุมมาโดยตลอด อาจมีการพลิกแพลงด้วยการแบ่งเงินให้น้อยลง หรือใช้รถยนต์เข้าออกให้มากเที่ยวขึ้น หลังการจับกุม 98 ล้านบาท กลุ่มขบวนการค่อนข้างปิดลับมากขึ้น มีการใช้เทคนิคซับซ้อนมากขึ้นเพื่อให้ยากต่อการถูกจับกุม

ทั้งนี้ คดี 98 ล้านบาทอยู่ในความดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะผู้ต้องหาชาวลาวทั้งสองคนเบื้องต้นให้การรับสารภาพ แต่ตอนหลังประสงค์จะต่อสู้คดี

นายด่านศุลกากรหนองคายกล่าวอีกว่า คดีแบบนี้ไม่ควรจะเกิด เพราะระบบธนาคารทุกวันนี้ถ้าสุจริตชนสามารถโอนเงินผ่านธนาคารทั้งใน และธนาคารต่างประเทศได้ แต่พฤติการณ์ของขบวนการเหล่านี้เท่าที่ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ภาษีลาว หรือศุลกากรลาว พบว่าไม่มีการแจ้งเงินไม่ว่าจะเป็นเงินเข้าหรือเงินออกประเทศ

แม้แต่ประเทศไทยก็เช่นกัน ไม่มีการแจ้งนำเงินเข้าออก แสดงให้เห็นว่าเป็นขบวนการใต้ดิน เงินที่ได้มาก็ยากต่อการพิสูจน์ว่าเป็นเงินถูกต้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น