เชียงราย - เกิดเหตุคนร้ายใจบาป..ทุบรถอาสากู้ภัยแม่เมาะ 105 จอดไว้หน้าถ้ำหลวงระหว่างร่วมค้นหา 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง ซ้ำรอยรถทีมกู้ภัยฯ เชียงใหม่
เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (29 มิ.ย.) พ.ต.ท.ยุทธรัช รัตนไพบูลย์เจริญ สารวัตรเวร สภ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้รับแจ้งเหตุทำให้เสียทรัพย์บริเวณถนนหน้าทางเข้าถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติการช่วยเหลือเด็ก และโค้ชทีมหมูป่ารวม 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงมาตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึง นายจำรัส เกี๋ยงแก้ว อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 510 หมู่ 8 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้นำเจ้าหน้าที่ไปดูรถยนต์คันเกิดเหตุ เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กบ 3566 ลำปาง ที่อยู่ในสภาพกระจกประตูข้างซ้ายถูกทุบจนหลุดออกมาตกด้านนอก ภายในมีวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง มูลค่า 6,500 บาทหายไป
เจ้าหน้าที่ตรวจพบใกล้กันพบไม้ไผ่ขยาวประมาณ 1 เมตรตกอยู่ คาดว่าคนร้ายใช้ทุบจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเร่งหาตัวคนกระทำความผิด เบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงานภายในหน้าถ้ำ และไม่มีคนเฝ้ารถจึงอาศัยเข้าไปหาทรัพย์สินภายในรถ
นายจำรัสกล่าวว่า หน่วยกู้ภัยของตนใช้นามเรียกขานว่า “อาสากู้ภัยแม่เมาะ 105” มาจากลำปาง เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือค้นหาทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต และเมื่อคืนได้กลับออกมาที่รถในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะกลับไปทำงานต่อในช่วงเช้า ก็พบว่ารถถูกทุบกระจกดังกล่าว
“รู้สึกเสียใจมาก พวกเรามาช่วยคนอื่นแต่กลับมีคนมาฉวยโอกาสแบบนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี ไม่เช่นนั้นอาจก่อเหตุอีกเพราะหน้าถ้ำมีรถจอดเรียงรายกว่า 100 คัน”
ขณะที่กลางดึกวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุคนร้ายทุบรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจ หรือสมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ ที่ตั้งใจพากันนำทีมกู้ภัยหลายสิบชีวิตไปร่วมค้นหา 13 ชีวิตนักเตะ-โค้ชทีมหมูป่าที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน มาแล้วคันหนึ่ง
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ใช้ชื่อว่า “คิตตี้ มีหนวด” สมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ ได้นำภาพสภาพรถไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เตือนภัยมิจฉาชีพฉวยโอกาสขโมยของ ทุบกระจกรถกู้ภัยของทีมสยามรวมใจที่เจ้าหน้าที่จอดไว้ริมทางเข้าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเพื่อร่วมเดินเท้าเข้าไปช่วยค้นหาน้องๆ ทีมหมูป่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความไว้แล้ว ผู้ใดมีเบาะแสพบเห็นแจ้งเจ้าหน้าที่ครับ”
เหตุการณ์ดังกล่าวชาวโซเชียลฯ ต่างพากันด่าสาปแช่งหัวขโมยรายนี้ ที่ฉวยโอกาสที่ผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองก่อเหตุ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจตราอย่างเข้มข้นแล้ว