กาญจนบุรี - ทหาร ฉก.ลาดหญ้า เข้าจับกุมลักลอบขนหอมเถื่อนคาด่านตรวจ สังขละบุรี กาญจนบุรี พร้อมยึดของกลางหอมแขกพม่าเพื่อดำเดินคดีต่อไป
วันนี้ (28 มิ.ย.) พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายและข้อสั่งการของ พล.ต.สนิธชนก สังขจันทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ให้หน่วยเพิ่มความเข้มงวด ในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ในพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีอาการนั้น จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อาคม มงคลนำ ผบ.มว.ลว.ที่ 1 ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ร่วมกับ ศุลกากร อ.สังขละบุรี, สภ.สังขละบุรี, ร้อย.ตชด.134 และ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี เข้มงวดตรวจค้นสินค้าทางการเกษตรหนีภาษี บริเวณ จุดตรวจร่วมสะพานรันตี ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี กาญจนบุรี
จนกระทั่งพบรถต้องสงสัย จำนวน 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้รถหยุด เพื่อขอตรวจค้นมี นายเกรียงศักดิ์ บุญสมจิตต์ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ เทา หมายเลขทะเบียน บพ 8217 กาญจนบุรี จากการตรวจค้นพบหอมแขกพม่ากระสอบละ 8 กิโลกรัม จำนวน 350 กระสอบ กระสอบละ 38 กิโลกรัม จำนวน 20 กระสอบ และคันที่ 2 มี นายศราวุฒิ มักเชี่ยว เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ กระบะยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ เทา หมายเลขทะเบียน บพ 9539 สุพรรณบุรี
จากการตรวจค้นพบหอมแขกพม่ากระสอบละ 8 กิโลกรัม จำนวน 450 กระสอบ รวมจำนวนหอมทั้งสิ้น 7,160 กิโลกรัม ซึ่งเป็นหอมแขกที่ลักลอบมาจากประเทศเมียนมา โดยไม่ได้ผ่านการตรวจสอบเอกสารและอนุญาตจากหน่วยงานความมั่นคงในการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรเข้ามาในประเทศไทย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.พจนีย์ หงส์รัตนวงค์ (ร้านตี๋รุ้ง) ให้เข้าไปขนหอมแดงพม่า จากบ้านพักบริเวณด้านหลังหมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ เพื่อนำสินค้าไปส่งที่กรุงเทพมหานครเจ้าของสินค้า
โดย น.ส.พจนีย์ แจ้งว่าตนเป็นเจ้าของสินค้าที่บรรทุกในรถยนต์กระบะดังกล่าวมาทั้งหมด พร้อมแจ้งว่ามีกลุ่มชายชาวเมียนมาได้นำหอมแขกพม่าที่ลักลอบเข้ามาจากประเทศเมียนมา มาขายให้ในราคาถูก เมื่อหนึ่งวันก่อน และได้นำไปเก็บรักษารอการขนย้ายที่บ้านพักห่างจากด่านเจดีย์สามองค์ ประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อจะนำไปขายต่อทำกำไรได้มาก แต่มาถูกจับกุมที่ด่านตรวจก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดตามกฎหมายศุลกากรว่า ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อรับจํานําหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามกฎหมาย หรือของที่ยังมิได้ผ่านกรรมวิธีศุลกากรโดยถูกต้อง เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จึงได้ร่วมกันยึดของกลางพร้อมทั้งผู้ต้องหาส่ง ด่านศุลกากรสังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ กล่าวต่อว่า หัวหอมเถื่อนที่จับกุมได้ มีการลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดน เพื่อนำไปจำหน่ายยังหัวเมืองชั้นใน เช่นกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาดี และจะมีราคาสูงขึ้นเท่าตัว เมื่อส่งถึงปลายทางผู้รับ ทำให้มีผู้ลักลอบนำเข้าเป็นขบวนการ และจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างต่อเนื่อง
แต่เนื่องจากชายแดนไทย-เมียนมา มีอาณาบริเวณกว้างและมีช่องทางธรรมชาติที่ใช้หลีกเลี่ยงการถูกจับกุมทำให้มีสินค้าเถื่อนหลุดรอดไปได้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะขบวนการค้าพืชไร่เถื่อน จึงเน้นย้ำกำลังพลให้มีการเข้มงวดกวดขันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดและร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
