เชียงราย - “ศรีวราห์” นำทีมแพทย์ตำรวจเช็กประวัตินักเตะ-โค้ชทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง พบป่วย 3 คน ขณะที่ลุงของหนึ่งในนักเตะเยาวชนเชื่อมั่นหลานชายแข็งแรงปลอดภัยจนเจ้าหน้าที่หาเจอแน่
วันนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการค้นหาช่วยเหลือนักเตะ-โค้ชทีมหมูป่า 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาตั้งแต่เย็นวันที่ 23 มิ.ย. หรือย่างเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว
ล่าสุดเช้านี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดช่องทาง-ขยายพื้นที่ห้ามบุคคลภายนอกเดินเข้าไปบริเวณปากทางเข้าถ้ำมากกว่าเดิม ยกเว้นให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ทั้งยังตั้งโต๊ะให้สื่อมวลชนลงทะเบียนเพื่อไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่ ขณะที่การสูบน้ำและค้นหา รวมทั้งการหาช่องทางเข้าผ่านปล่องรอบถ้ำเพิ่มเติมยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และพัฒนาสังคมฯ ก็ยังคงคอยดูแลพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้สูญหายภายในเต็นท์หน้าถ้ำหลวง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นแม่ของเด็กๆ เพราะหลังผ่านเวลามาเกือบ 5 วัน 5 คืนเต็มๆ ทำให้หลายคนอิดโรย และร้องไห้ บางคนป่วยเป็นหวัด รวมทั้งมีพระภิกษุมาเทศนาธรรม-นำสวดมนต์ด้วย
เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.เศษที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้นำคณะแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจตรวจเยี่ยมญาติๆ ของเด็กๆ และตรวจประวัติผู้ป่วยของเด็กผู้สูญหายจากพ่อแม่โดยตรง เบื้องต้นพบว่านักเตะทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ติดอยู่ในถ้ำนั้นมีประวัติเป็นหอบหืด 2 คน และอาการทางเลือดที่แพ้ยาบางชนิด 1 คน จึงได้บันทึกข้อมูลประวัติเอาไว้และแจ้งญาติถึงการช่วยเหลือในอนาคตต่อไป
พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ทางรัฐบาล และ สตช.มีความห่วงใย และสั่งการให้สนับสนุนการช่วยเหลือค้นหาอย่างเต็มที่ จึงได้นำคณะแพทย์มาช่วยนอกเหนือจากกำลังพล ซึ่งหากญาติเด็กๆ ต้องการแจ้งอาการประวัติผู้ป่วยบุตรหลาน หรืออื่นๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาเพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.ธนา ธุระเจน รอง พตร. กล่าวว่า ทาง รพ.ตร.เป็นหน่วยสนับสนุน และหากทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่มีผู้ว่าฯ เชียงรายเป็นประธานแจ้งมาก็พร้อมเข้าปฏิบัติงานได้ทันที โดยได้เตรียมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ไว้ 21 นาย เป็นแพทย์ 6 นาย เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ รถพยาบาล 4 คัน ทีมแพทย์ 4 ชุด
“ตามหลักทั่วไปแล้วคนติดในถ้ำและอาจไม่มีอาหาร 6 วัน หากเป็นเด็กกลุ่มนี้ ซึ่งมีสภาพร่างกายแข็งแรงเพราะเป็นนักกีฬาสามารถอยู่ได้ แต่สิ่งที่กังวลคือ สายตาที่มองความมืด และอากาศเย็นเราจึงต้องเตรียมการรองรับไว้”
โดยการช่วยเหลือจะแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ภาวะวิกฤต และวิกฤตในเด็ก ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือ เด็กมีประวัติป่วย 3 คน และเมื่อออกมาอาจมีอาการทางสายตาเพราะอยู่ในที่มืดเกิน 3-4 วัน ทางเจ้าหน้าที่จึงเตรียมแว่นกันแดด และอุปกรณ์รองรับการรักษาไว้แล้ว ส่วนภาวะอุณหภูมิต่ำก็เตรียมผ้าห่มด้วย และเนื่องจากเด็กบางคนมีอายุต่ำกว่า 13 ปี จึงได้เตรียมท่อหายใจแบบพิเศษเพิ่มด้วย แต่คิดว่าทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ และโรงพยาบาลในพื้นที่ได้เตรียมการเอาไว้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลตำรวจเป็นส่วนสนับสนุน จึงจะรอผลการช่วยเหลือ 2 ด้าน คือ ด้านปากถ้ำ และทางปล่องบนเขาเหนือถ้ำ ซึ่งรอง ผบ.ตร.ก็จัดเฮลิคอปเตอร์รอบินไปสนับสนุนแล้ว 4 ลำด้วยกัน
นายอ้าย บุญธรรม อายุ 60 ปี ลุงของ ด.ช.เอกรัตน์ วงศ์สุข อายุ 14 ปี หนึ่งในนักเตะทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง กล่าวว่า ตามปกติหลานชายของตนมีสภาพร่างกายแข็งแรง จึงเชื่อมั่นว่าเขาสามารถอยู่ได้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปพาตัวออกมาอย่างแน่นอน