ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และ ผบ.กองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 3 กองพันพัฒนาที่ 3 มทบ.33 นำเจ้าหน้าที่ลุยตรวจสอบโรงงานสิ่งพิมพ์กลางหมู่บ้านดัง ก่อความเดือดร้อนนานหลายปี
วันนี้ (27 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่และเทศบาลนครเชียงใหม่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย พันตรี โสภณ ภักดิ์เกษม ผู้บังคับการกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 3 กองพันพัฒนาที่ 3 มณฑลทหารบกที่ 33 และนายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบโรงงานรับจ้างผลิตสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์แห่งหนึ่งในหมู่บ้านโชตนานิเวศน์ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านดังกล่าวจำนวนมากรวมตัวกันร้องขอความช่วยเหลือเนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นของสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์ รวมทั้งแรงสั่นสะเทือนและเสียงดังจากโรงงานดังกล่าวมานานกว่า 3-4 ปี ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนเทศบาลนครเชียงใหม่ให้เข้าตรวจสอบและมีคำสั่งปิดแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค. 61 อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าโรงงานดังกล่าวยังคงเปิดดำเนินการอยู่ โดยอ้างว่าได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งปิดและกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวอย่างเปิดเผยเพื่อขอเข้าตรวจสอบภายในโรงงาน แต่ปรากฏว่าพนักงานของโรงงานดังกล่าวปฏิเสธที่จะให้เข้าตรวจสอบโดยอ้างว่าเจ้าของโรงงานไม่อยู่ ขณะที่ต่อมาทางพนักงานได้โทรศัพท์และให้เจ้าหน้าที่พูดคุยกับเจ้าของโรงงาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งรายละเอียดและเหตุผลที่จะขอเข้าตรวจสอบ โดยทางเจ้าของยังคงบ่ายเบี่ยง อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มอบหมายให้ทนายความมาพบเจรจากับเจ้าหน้าที่ ท่ามกลางผู้อยู่อาศัยที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากที่มาติดตามสถานการณ์
เบื้องต้นทางทนายความยอมรับว่าโรงงานดังกล่าวเปิดดำเนินการโดยไม่ถูกต้องและถูกคำสั่งจากเทศบาลนครเชียงใหม่ให้ปิดดำเนินการ อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์คำสั่งจึงเปิดดำเนินการต่อ และเตรียมที่จะย้ายไปตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเมื่อมีคำสั่งปิดแล้วทางโรงงานจะต้องหยุดดำเนินการ แม้จะมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งก็ตาม และขออนุญาตเข้าตรวจสอบ โดยทนายความยังบ่ายเบี่ยงที่จะให้เข้าตรวจสอบ แต่ทางเจ้าหน้าที่ย้ำว่ามีอำนาจหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบได้และจะแจ้งความฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน สุดท้ายจึงยินยอมให้เข้าตรวจสอบประมาณ 30 นาที
พันตรี โสภณ ภักดิ์เกษม ผู้บังคับการกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 3 เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบโรงงานแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้เน้นย้ำให้ทางโรงงานหยุดดำเนินการตามคำสั่ง ขณะเดียวกันเตรียมเข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือกเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับโรงงานดังกล่าวใน 3 ฐานความผิด ได้แก่ ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, ความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข และต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ายังมีการฝ่าฝืนอีกจะดำเนินการตามกฎหมายเพิ่มอีก
ขณะที่ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านโชตนานิเวศน์รายหนึ่งเปิดเผยว่า ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้จำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานแห่งนี้มานานหลายปีแล้ว ทั้งจากกลิ่นเหม็น, น้ำเสียที่ไม่มีการบำบัดแล้วปล่อยลงรางระบายน้ำของหมู่บ้าน, เสียงดัง และแรงสั่นสะเทือน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงงานดังกล่าวจะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนบางรายต้องยอมย้ายหนี โดยโรงงานแห่งนี้เข้ามาเช่าบ้านเปิดดำเนินการนานประมาณ 10 ปีแล้ว เริ่มจากกิจการเล็กๆ แต่ต่อมามีการขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ จากข้อมูลทราบว่าแรกเริ่มทางโรงงานเปิดดำเนินการโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตด้วย ต่อมาขยายกิจการขึ้นและเริ่มสร้างความเดือดร้อนจนถูกร้องเรียน จึงมีการไปขออนุญาตกับทางเทศบาลนครเชียงใหม่เมื่อประมาณปี 2559 ซึ่งไม่เข้าใจว่าโรงงานแห่งนี้มาตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรได้อย่างไร และที่ผ่านมาทางผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านได้มีการร้องเรียนไปที่เทศบาลนครเชียงใหม่หลายครั้งแล้วแต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งครั้งนี้ที่มีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าร่วมตรวจสอบและหวังว่าน่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนลงได้