xs
xsm
sm
md
lg

หวังฆ่ายกครัว! แม่-ลูกสาวและหลานถูกวางยาพิษ ด.ญ.วัย 4 ขวบดับอนาถ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มหาสารคาม - เกิดเหตุสลดหวิดตายหมู่ที่ อ.บรบือ แม่ พร้อมลูกสาวและหลานๆ นั่งโซ้ยส้มตำป่าพร้อมดื่มน้ำดับความเผ็ดร้อน หลังกินเสร็จเกิดอาการอ่อนแรง ชักเกร็งตาค้าง น้ำลายฟูมปาก คนเป็นแม่กัดฟันร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านหามส่งโรงพยาบาล สุดท้ายเด็กหญิงวัย 4 ขวบดับ เผยไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ข้องใจทำไมลอบวางยาพิษแม้แต่เด็กน้อยตาดำๆ

หลังทราบข่าวมีเด็กหญิงวัย 4 ขวบเสียชีวิตจากการดื่มน้ำที่ผสมยาพิษไม่ทราบชนิด นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ดื่มน้ำผสมยาพิษรวมทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นางสาวนุจรี ศรีสัง อายุ 32 ปี ด.ญ.กมลวรรณ พลจ่า หรือน้องยิ่ง อายุ 7 ขวบ ด.ญ.ธนวรรณ พลจ่า น้องเรไร อายุ 3 ขวบ และ ด.ญ.สุภัสสรา ดาหอม หรือน้องกะเพรา อายุ 4 ขวบ (เสียชีวิต) ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ที่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 10 บ้านหนองตูบ ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ

บ้านหลังดังกล่าวมีงานสวดพระอภิธรรมศพของ “น้องกะเพรา” อายุ 4 ขวบ จากการสอบถาม นางสาวนุจรี ศรีสัง แม่ของน้องกะเพรา เล่าว่า ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนเอง ลูกชาย ลูกสาว และหลานสาว อีก 2 คน รวม 5 คน ได้นั่งล้อมวงกินส้มตำป่า ซึ่งตนได้ให้เงินหลานสาวไปจำนวน 40 บาทซื้อส้มตำป่า และขนมมารับประทานร่วมกัน โดยได้นั่งกินกันที่ใต้ถุนบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ห่างจากบ้านงานศพประมาณ 200 เมตร

ขณะกำลังรับประทานส้มตำป่า ซึ่งรสชาติเผ็ด เด็กๆ ก็ดื่มน้ำในกระติกที่ใช้ประจำทุกวัน รวมถึงตนเอง ซึ่งก็สลับกันดื่มน้ำคนละอึกสองอึก แต่น้องกะเพราดื่มน้ำไปถึง 3 แก้ว แต่ว่าลูกชายไม่ได้ดื่มน้ำด้วย หลังจากรับประทานส้มตำป่าเสร็จเรียบร้อยก็ช่วยกันเก็บกวาด ช่วงระยะเวลาเพียงไม่นานน้องยิ่งหลานสาววัย 7 ขวบ ก็มีอาการคนแรก

จากนั้นก็มาเป็นน้องกะเพรา ลูกสาวของตน น้องเรไร และตนเอง ซึ่งทั้งหมดมีอาการแขนขาอ่อนแรง เด็กๆ ชักเกร็งตาค้าง น้ำลายฟูมปาก ส่วนตนก็แขนขาอ่อนแรง พยายามรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีเรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ จนเพื่อนบ้านได้ยินจึงได้พากันมาช่วยและโทร.แจ้งหน่วยกู้ชีพกู้ภัย 1669 มาช่วยนำตัวทั้งหมดส่งโรงพยาบาลบรบือ

ต่อมาทางโรงพยาบาลบรบือได้ส่งตัวน้องกะเพราไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคาม แต่น้องก็เสียชีวิตลง ญาติจึงได้รับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ส่วนตนเองแพทย์ให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบรบือ และอนุญาตให้กลับบ้านได้เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ขณะที่หลานอีก 2 คน คือ น้องยิ่ง ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ส่วนน้องเรไร อาการปลอดภัยแล้ว

หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบและได้นำน้ำในถังที่คาดว่าจะปนเปื้อนสารพิษไปตรวจสอบ โดยตนยังไม่ทราบว่าเป็นสารพิษอะไร ซึ่งหมอบอกแต่เพียงว่าเป็นสารพิษชนิดร้ายแรง ที่ผ่านมาตนไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ โดยย้ายไปอยู่กับสามีที่ อ.นายูง จ.อุดรธานี ส่วนน้องกะเพรากำลังเรียนชั้นอนุบาล 1 ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านนาตูม หมู่ 5 ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี ซึ่งช่วงนี้ได้กลับมาเยี่ยมพ่อที่กำลังป่วยต้องนอนโรงพยาบาล ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

“ตอนนี้ก็มืดแปดด้าน เพราะไม่ทราบว่าน้ำปนเปื้อนสารพิษได้อย่างไร ที่ผ่านมาบ้านหลังนี้จะมีพ่อแม่ น้องสาว และหลาน รวม 6 คนอาศัยอยู่ ปกติแล้วน้องสาวก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ตกเย็นก็ปิดบ้านเข้านอน ซึ่งหากดิฉันไม่เจอเหตุการณ์นี้ คนที่โดนก็อาจจะเป็นพ่อแม่ น้องสาว และหลานๆ ก็เป็นได้” นางสาวนุจรีกล่าว และว่า อยากฝากบอกคนที่ทำว่า ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไร ครอบครัวตนไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ทำไมต้องมาทำแบบนี้ ทำไมไม่สงสารเด็กน้อยตาดำๆ หวังกะให้ตายทั้งครอบครัวเลยหรืออย่างไร หากเจ็บแค้นใครทำไมไม่ไปทำกับคนนั้น ตนเองที่โดนยาพิษยังรู้สึกทรมาน แต่เด็กคงจะทรมานมากกว่าตน

ขอร้องให้รายนี้เป็นรายสุดท้าย อย่าไปทำกับคนอื่น และอยากฝากบอกพ่อแม่ผู้ปกครอง เวลาจะให้ลูกกินอะไรก็ขอให้ดูให้ดีๆ

เหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นความสะเพร่าของตนที่ไม่ดู ไม่สังเกตให้ดีๆ ทำให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียขึ้น โดยศพของน้องกะเพราจะทำการฌาปนกิจที่วัดป่าสารญาณมุณี ต.หนองโก อ.บรบือ ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้

ด้าน ร.ต.อ.มงคล หาคลัง พนักงานสอบสวน สภ.บรบือ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากว่า นางสาวนุจรี ซึ่งเป็นแม่ของน้องกะเพรา ก็ได้รับสารพิษด้วย ยังคงมีอาการสะลึมสะลือ ร่างกายยังไม่แข็งแรงร้อยเปอร์เซ็นต์ คงต้องรอให้เสร็จสิ้นจากงานศพก่อนจึงได้เริ่มทำการสอบปากคำ และยังต้องรอผลพิสูจน์ว่าสารพิษที่ปนเปื้อนในน้ำนั้นเป็นสารพิษชนิดใดกันแน่ เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น