ศูนย์ข่าวศรีราชา- กองทัพเรือ ร่วม ท่าเรือแหลมฉบัง เตรียมจัดซ้อมแผนต่อต้านการก่อการร้าย โดยสมมติเหตุการณ์กลุ่มก่อการร้ายเข้ายึดเรือสินค้ากลางทะเล เหตุเป็นพื้นที่เสี่ยงและยังเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากเกิดเหตุขึ้นจริง และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการเดินเรือสินค้า
วันนี้ (12 มิ.ย.) นาวาเอก อนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการ กรมรบพิเศษที่ 1 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีจักรี ยูพานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กองการบุคคล ,นายชุนณ์ลพัทธ์ ศรีภาเพลิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กองบริหารงานทั่วไป ท่าเรือแหลมฉบัง ,และตัวแทนจากบริษัทเรือเอกชน ได้ร่วมประชุมเพื่อวางแนวทางการฝึกซ้อมการต่อต้านการก่อการร้ายในทะเล ณ ห้องประชุม 1 ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งจะมีการฝึกซ้อมจริงในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ และจะมีการสมมติสถานการณ์เหตุคนร้ายเข้ายึดเรือสินค้า บริเวณกลางทะเลแหลมฉบัง
การร่วมฝึกซ้อมแผนดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากกองทัพเรือ มีภารกิจในการักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งปัจจุบันภัยคุกคามทางทะเลมีหลายรูปแบบ โดยภัยก่อการร้ายก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะต้องมีการป้องกันและป้องปราม
โดยหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยปฏิบัติการในการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ของกองทัพเรือ จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดความพร้อมของเจ้าหน้าที่ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ จึงประสานมายังท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเรือสินค้าเข้าออกเป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จัดให้มีการซ้อมแผนดังกล่าว เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์จริงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและขาดความเชื่อมั่นในการเดินเรือเป็นอย่างมาก
นาวาเอก อนันท์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความพร้อมของท่าเรือแหลมฉบัง และกองทัพเรือ จึงสมมติเหตุการณ์ว่ามีเรือสินค้าที่จะเข้ามายังท่าเรือแหลมฉบัง ถูกกลุ่มก่อการร้ายเข้ายึดเรือ เพื่อก่อวินาศกรรมหรือปิดท่าเรือ เพื่อให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ กองทัพเรือ จึงต้องเข้าจู่โจม เพื่อยึดเรือลำดังกล่าวคืน โดยใช้ชุดปฏิบัติการทางน้ำ และ ทางอากาศ เข้าปฏิบัติงาน
การฝึกครั้งนี้ เพื่อให้ท่าเรือแหลมฉบัง เกิดความเข้าใจ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะต้องให้การสนับสนุนกองทัพเรืออย่างไรบ้างเพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนกองทัพเรือจะมีความเข้าใจพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็สามารถประสานงานและเข้าดำเนินการได้ทันท่วงที