ลำปาง - รอง ผบ.ตร.นำทีมเจ้าหน้าที่แถลงโชว์จับหนุ่มเชียงราย ขนยาบ้าคาด่านเอกซเรย์แม่พริก 13 ล้านเม็ด สาวลึกพบแก๊งยานรกสวมชื่อคนอื่นจ้างบริษัทขนส่ง-ติด GPS ลำเลียงยาเสพติดจากเชิงสะพานข้ามน้ำโขง-อยุธยาแล้วกว่า 20 ครั้ง
วันนี้ (10 มิ.ย.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.นิยม ด้วงสี ผบก.ภ.จว.ลำปาง, นายสมเกียรติ ตันตระกูล ปลัดจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยตำรวจ สภ.แม่พริก, ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส., ทหาร มทบ.32 ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ด่านเอกซเรย์แม่พริก ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง
กรณีการจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายสุรศักดิ์ พันธุปาล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 13,000,000 เม็ด
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ สภ.แม่พริกได้เรียกตรวจรถบรรทุก 12 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-6070 เชียงราย ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งในเชียงราย เบื้องต้นพบว่าได้บรรทุกชุดโซฟาและเฟอร์นิเจอร์เต็มคันรถ
แต่เนื่องจากเห็นว่ารถคันดังกล่าวเดินทางมาจากห้องแถวใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นทางในการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ตอนในของประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถบรรทุกคันดังกล่าวเข้าเครื่องเอกซเรย์แบบอุโมงค์ จนพบมียาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในตู้เอกสารจำนวนกว่า 30 ตู้
ผู้ต้องหาได้ให้การว่าตนเองไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะมีหน้าที่แค่ขับรถขนสินค้าดังกล่าวนำไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เท่านั้น แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคาด่านก่อน
จากการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ทราบว่าขบวนการขนยาเสพติดกลุ่มนี้ทำเป็นขบวนการและมีการวางแผนเป็นอย่างดี ใช้เครื่อง GPS จำนวน 2 ตัวติดไว้ที่ตู้เอกสาร และใส่ไว้ในซองเอกสารให้กับคนขับรถเพื่อเป็นการติดตามความเคลื่อนไหวของยาบ้าดังกล่าวตลอดเส้นทาง จึงทำให้รู้ว่าเดินทางถึงจุดไหน และสามารถตรวจสอบตำแหน่ง GPS ได้ว่าถูกสกัดอยู่ที่พื้นที่ใด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่านายเขมเป็นคนว่าจ้างบริษัทขนส่ง และเมื่อตรวจสอบลึกลงไปจึงพบว่าเป็นการสวมชื่อบุคคลอื่นคือใช้บัตรประชาชนคนอื่นในการว่าจ้างให้ไปรับสินค้าในจุดดังกล่าวแล้ว 7 ครั้ง รวมถึงครั้งก่อนหน้านี้ได้แอบอ้างสวมใช้ชื่อ นายสุวัฒน์ ว่าจ้างให้ไปขนสินค้นจากจุดเดียวกันอีกจำนวน 14 ครั้ง รวมทั้งหมดถึง 21 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการลักลอบขนยาเสพติดทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามขยายผล ล่าสุดพอจะทราบเส้นทางและรู้ตัวผู้ที่ร่วมขบวนการแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนและออกหมายจับ โดยรู้จุดที่ใช้เป็นสถานที่บรรจุและซุกซ่อนยาบ้า และพบมีกุญแจตู้เอกสาร-อุปกรณ์อยู่จำนวนมาก
ในส่วนของบริษัทขนส่งที่ถูกว่าจ้างนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนเจ้าของบริษัทว่ามีการปล่อยปละละเลยการทำงานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนยาเสพติดในครั้งนี้หรือไม่