ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการ “ทางลอดฟ้าฮ่าม” และ“ขัวสรีเวียงพิงค์” ถนนเชียงใหม่-ลำปาง มูลค่ากว่าพันล้านบาท หวังแก้ปัญหาการจราจรติดขัด ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้(9 มิ.ย.61) ที่บริเวณทางลอดฟ้าฮ่าม(แยกแม่โจ้) และสะพานขัวสรีเวียงพิงค์ ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานทำพิธีเปิดใช้เปิดทางลอดฟ้าฮ่าม และขัวสรีเวียงพิงค์ อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและมีการเปิดทดลองใช้มาระยะหนึ่ง
โดยการก่อสร้างตามโครงการนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ งานทางลอด ก่อสร้างตามแนวทางหลวงหมายเลข 11 เส้นทางขนาด 6 ช่องจราจรไป-กลับ ยาว 533 เมตรและกว้าง 31 เมตร , งานก่อสร้างและขยายความกว้างสะพานข้าแม่น้ำปิง จาก 4 ช่องจราจรเป็น 6 ช่องจราจร ความยาว 140 เมตรและก่อสร้างสะพานคู่ขนานขนาด 2 ช่องจราจร ด้านซ้ายทางและขวาทางของสะพานเดิม ความยาว 160 เมตร รวมงานบันไดเชื่อมต่อ ทางเท้าสะพานจำนวน 4 แห่ง รวมทั้งงานก่อสร้างและขยายทางหลวงหมายเลข 11 โดย ขยายช่องทางจราจรในทางหลักจาก 4 ช่องจราจร 6 ช่องจราจร ก่อสร้างและขยายทางคู่ขนานอย่างน้อย 3 ช่องจราจร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1,172,771,000 บาท โดยมีบริษัทเชียงใหม่คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับเหมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ทางหลวงหมายเลข 11 ตอน อินทร์บุรี-เชียงใหม่ เป็นทางหลวงแผ่นดินสายหลักเชื่อมการคมนาคมระหว่างจังหวัดภาคกลางกับภาคเหนือด้านตะวันออกและภาคเหนือด้านตะวันตก ซึ่งการก่อสร้างเส้นทางสู่ภาคเหนือได้ก่อสร้างช่วงเชียงใหม่-ลำปาง เป็นช่วงแรกมีขนาด 2 ช่องจราจร ต่อมาได้รับการขยายให้มีขนาด 4 ช่องจราจร ไป-กลับ นับเป็นทางหลวงสายหลักในการเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีความสำคัญในการเดินทางของประชาชนใช้ในการขนส่งสินค้าการเกษตร และสินค้าพื้นเมือง รวมทั้งเป็นเส้นทางในการเดินทางไปสู่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ และถือเป็นถนนวงแหวนรอบในของเมืองเชียงใหม่ โดยกรมทางหลวงได้ก่อสร้างทางลอดที่บริเวณจุดตัดกับ ทางหลวงอื่นๆในเขตอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่แล้วหลายแห่ง
ซึ่งทางลอดฟ้าฮ่าม ถือเป็นทางลอดอีกแห่งหนึ่งที่กรมทางหลวงได้ดำเนินการก่อสร้างตั้งอยู่ในบริเวณจุดตัดระหว่างทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 1001 ที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นจึงทำให้ปริมาณการจราจรติดขัดตลอดแนวทุกทิศทางโดยเฉพาะในเวลาชั่วโมงเร่งด่วนหรือช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวทำให้เกิดการสูญเสียเวลาและสิ้นเปลืองทางด้านเศรษฐกิจ
ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรรอบเมืองเชียงใหม่และพื้นที่ขอขวดบริเวณสะพานข้าแม่น้ำปิงจึงได้มีการก่อสร้างทางรอดแห่งนี้รวมทั้งขยายและก่อสร้างสะพานข้าแม่น้ำปิงโดยรูปแบบทางลอดและสะพาน ออกแบบให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา เช่น โคมไฟ หอซุ้ม ราวสะพาน รวมถึงลานใต้สะพาน เพื่อจัดกิจกรรมของชุมชนในงานประเพณีต่างๆ ซึ่งหลังการดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้น ได้รับการเสนอชื่อทางลอดว่า “ฟ้าฮ่าม” และ ชื่อสะพานข้าแม่น้ำปิงคือ “ขัวสรีเวียงพิงค์” เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน ผู้ใช้ทางในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางตลอดจนแก้ไขปัญหาการจราจรในบริเวณดังกล่าวให้ประชาชนมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ประปา ไฟฟ้า ได้ร่วมกันปรับทัศนียภาพบริเวณสะพานข้าแม่น้ำปิงให้ดูโดดเด่นคู่เมืองเชียงใหม่ โดยหลังจากการเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้วนั้น จะเพิ่มประโยชน์ให้กับประชาชนทั้งเรื่องของการคมนาคมและเศรษฐกิจของจังหวัดต่อไป