ศูนย์ข่าวศรีราชา- นอภ.บางละมุง ร่วมเมืองพัทยา เทศบาลห้วยใหญ่ ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน หลังโครงการตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา เกิด...ทำบ้านถูกน้ำท่วมขัง ขณะที่ผู้เดือดร้อนเผยที่ผ่านมาร้องเรียนมาแล้วหลายหน่วยงานแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้านเมืองพัทยา เตรียมจัดทำระบบระบายน้ำในระยะสั้น- ระยะยาว พร้อมตรวจสอบการขออนุญาตถมดินว่าถูกต้องหรือไม่
จากกรณีที่มีชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ระหว่างพื้นที่เชื่อมต่อเมืองพัทยาและห้วยใหญ่ ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่อยู่ติดกับโครงการตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.ชลบุรี ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าได้รับความเดือดร้อน หลังพื้นที่ดินข้างเคียงถมดินจนสูง จนทำให้ที่พักอาศัยกลายเป็นที่แอ่งกระทะ ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนัก และที่ผ่านมาได้เคยร้องเรียนไปแล้วหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีการดำเนินการช่วยเหลือตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดในวันนี้ (8 มิ.ย.) นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา และเทศบาลตำบลใหญ่ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อหาข้อเท็จจริงและหาแนวทางแก้ไข ในการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นให้กับประชาชน โดยมีผู้บริหารตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา เข้าร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
และจากการหารือเบื้องต้น สามารถสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น คือ จะต้องมีการขุดเจาะเพื่อวางท่อระบายน้ำ ค.ส.ล. ขนาด 80 ซม.ระยะทางประมาณ 100-200 เมตร เพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ท่วมขังเข้าสู่ระบายน้ำเดิมของโครงการตลาดน้ำ 4 ภาค เพื่อปล่อยทิ้งลงสู่ท่อระบายหลักบริเวณถนนสุขุมวิท โดยจะระบายน้ำในที่ดินของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนในระยะยาวได้มอบหมายให้ เมืองพัทยาลงพื้นที่สำรวจ ออกแบบ ในการวางระบบระบายน้ำจากพื้นที่ปัญหาลงสู่ท่อท่อระบายน้ำหลักของเมืองพัทยาบริเวณสุขุมวิทซอย 93 ที่อยู่ข้างเคียงกัน ขณะที่แผนงานหลักซึ่งปัจจุบันผ่านความเห็นชอบในเรื่องของงบประมาณไปแล้ว คือการจัดทำระบบท่อรับน้ำเลียบทางรถไฟของฝั่งตะวันออก เพื่อป้องกันมวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าลงสู่พื้นที่ดินบริเวณด้านหลังโครงการตลาดน้ำ 4 ภาค ซึ่งพบว่าเป็นที่ลุ่มต่ำซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำลดน้อยลงและลดภาวะการท่วมขังได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายนริศ กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมขังบ้านเรือประชาชน สาเหตุสำคัญมาจากที่ดินข้างเคียงมีการถมดินสูงเกินความจำเป็น ทำให้น้ำไม่สามารถไหลระบายตามธรรมชาติได้ และยังเอ่อท่วมขังในพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้สำนักการช่างเมืองพัทยา จะได้ทำการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ เพราะการถมดินขนาดพื้นที่เกินกว่า 200 ตารางเมตร จำเป็นต้องมีการขออนุญาตและมีการออกแบบการระบายน้ำเพื่อป้องกันการท่วมขังในพื้นที่ข้างเคียงด้วย ซึ่งหากพบว่าไม่มีการดำเนินการก็จะสั่งการให้แก้ไขต่อไป
ขณะที่ นายสมนึก ห้วยใหญ่ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน บอกว่า ที่ดินแปลงที่อาศัยอยู่ เป็นที่ดินที่ตกทอดมาแต่บรรพบุรุษ ซึ่งเดิมมีอาชีพทำนาและข้างเคียงเป็นที่ลุ่ม แต่หลังจากมีโครงการแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้นได้มีการกว้านซื้อที่ดินจากนายทุน และทำการถมดินสูงล้อมที่ดินของตน จนเกิดปัญหาน้ำท่วมขังอย่างหนัก ซึ่งที่ผ่านมาพยายามร้องเรียนมาหลายหน่วยงานแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข กระทั่งอำเภอบางละมุงร่วมกับเมืองพัทยาลงพื้นที่มาตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก