สภาพจิตใจ แม่น้องเหยื่อพ่อเลี้ยงหื่น ย่ำแย่ ยังคงนอนรักษาตัวที่ โรงพยาบาล

อ่างทอง - สภาพจิตใจ แม่น้องเหยื่อพ่อเลี้ยงหื่น ย่ำแย่ ยังคงนอนรักษาตัวที่ โรงพยาบาล เผยว่า ไม่คาดฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวของตนเอง ด้านตาของน้อง เผย อยากให้พ่อเลี้ยงน้องมามอบตัวรับโทษตามกฎหมาย ไม่โกรธเคืองแต่ไม่ให้อภัย

กรณีที่นายสมหมาย หวาดด้วงดี อายุ 58 ปี คนขับรถแท็กซี่ ได้ประสบเหตุ ได้ช่วยเหลือ นำตัวส่งโรงพยาบาลกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร หลัง มีชายวัยประมาณ 40 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยมีน้องเอ (นามสมมติ) วัย 10 คือ นั่งฟุบอยู่ด้านหน้าในสภาพหมดสติ มาเคาะประตูรถแท็กซี่ ของนายสมหมาย ขอความช่วยเหลือให้นำเด็กหญิงไปส่งโรงพยาบาล และแพทย์ทำการตรวจรักษาพบว่าเด็กหญิงมีร่องรอยถูกกระทำชำเรามา อวัยวะเพศฉีกขาด จากตรวจสอบพบว่าในเด็กหญิง อยู่กับ ตา ยายที่จังหวัดอ่างทองจึงได้มีการติดต่อประสานงานกับทางยายของเด็กหญิง มาที่โรงพยาบาล

โดยยายของน้องเอ เล่าว่า พ่อเลี้ยงของเด็ก ได้ไปที่บ้านเพื่อจะขอรับเด็กโดยอ้างว่าแม่ของเด็กป่วยหนักจะรับไปดูแม่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็ยินยอม จากนั้นพ่อเลี้ยงก็ไปรับหลานที่โรงเรียน แล้วก็หายไป ซึ่งตนเองก็พยายามตามหาหลานตั้งแต่เย็นวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมารู้อีก คือมีคนโทรไปแจ้งว่า เกิดเหตุไม่ดีขึ้นกับหลานสาว ซึ่งหลานของตนนั้น มีความบกพร่องทางด้านร่างกายด้วยอาการออทิสติกตั้งแต่เกิด ล่าสุดทาง ตร.ได้ออกหมายจับพ่อเลี้ยง ดังกล่าวแล้ว คือนายชัยยุท คงเจริญ หรือ เอ็ม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับกระทำความผิดฐาน พรากผู้เยาว์ฯ ข่มขื่น

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยขณะนี้น้องเอ เหยื่อพ่อเลี้ยงหื่น ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ ส่วน น.ส.กนกพร สว่างจันทร์ อายุ 32 ปีแม่ของน้องเอ ซึ่งยังนอนรักษาตัวอยู่ หลังป่วยเป็นโรคไต สภาพจิตใจ ย่ำแย่ นอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา หลังทราบว่า ลูกสาวโดนพ่อเลี้ยงยำยี พร้อมเผยว่า ไม่คาดฝันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวของตนเอง ตนและสามี (นายเอ็ม) อยู่กินกันมา ประมาณ 9 ปี

ตลอดระยะเวลา ดูแลและช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่เคยมีพฤติกรรม ในลักษณะนี้ มาก่อน หลังจากเกิดเหตุการณ์ ครั้งนี้ ตนเองไม่เข้าใจว่า ทำไม สามีตนถึงทำแบบนี้ และทางสามี ไม่ได้ติดต่อกลับมา อย่างไรก็ตาม ตนยืนยัน จะดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด และวันนี้ ตนจะเดินทางไปดูลูก หลังจากฟอกไต เสร็จ

ขณะที่ นายสนิท ศิลป์ประเสริฐ อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 148 หมู่ที่ 8 ตำบลวังน้ำเย็น อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ตาของน้องเอ เปิดเผยว่า ตนเองและยายของน้องเอ เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ เป็นเด็กที่มีนิสัยร่าเริงชอบช่วยงานบ้าน ช่วงเกิดเหตุ นายเอ็ม พ่อเลี้ยงได้มาขอรับตัวไปนอนเฝ้านางสาว กนกพร สว่างจันทร์ อายุ 32 ปี แม่ ที่ป่วยโรคไตอยู่โรงพยาบาลโพธิ์ทอง

มาทราบอีกครั้งตอนได้รับโทรศัพท์ จากทางโรงพยาบาลกระทุ่มแบนว่าน้องเอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังทราบสาเหตุของการบาดเจ็บ ว่าโดนพ่อเลี้ยงทำร้าย รู้ก็ตกใจ และเสียใจอย่างมาก ที่ผ่านมาเคยพบเห็นเรื่องราวเหล่านี้แต่ในทีวี ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเอง

ส่วนนายเอ็ม พ่อเลี้ยงน้องเอ นั้นเพิ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านตนเองเพียง 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งมาเฝ้าแม่น้องตอนที่ป่วยเป็นโรคไต และไม่ทำงาน ส่วนตัวมองแล้วไม่น่าไว้วางใจ เนื่องจากมองดูแล้ว มีอาการคล้ายคนติดยา ชอบโกนหัว และไปนั้นซุ่มอยู่นอกบ้านในช่วงกลางคืนเป็นประจำ และมีนิสัยก้าวร้าวกับคนในครอบครัว อยากให้มามอบตัวรับโทษตามกฎหมาย ตนเองไม่โกรธเคืองแต่ไม่ให้อภัย

ส่วนน้องเอ หลานสาว หากออกจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้านต้องพยายามดูแลอย่างดี ไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวของเข้ามาดูแลให้คำแนะนำเพื่อให้น้องได้หายกังวลและหากไปโรงเรียนเข้าสังคมต้องฝากทางครูดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้น้องตองมีอาการกลับฟื้นคืนมาใช้ชีวิตปกติสุขตามอัตภาพต่อไป