พิษณุโลก - ตำรวจ-ป.ป.ส.ภาค 6 ซ้อนแผนรวบเครือข่ายยาบ้าแก๊ง “มันทุกเม็ด” พบ 3 หัวโจกกบดาน ปท.เพื่อนบ้าน เปิดเฟซฯรับสมัครลูกข่ายขายยานรกทั่วไทย จับสมุนได้แล้ว 1 ราย พร้อมเร่งล่าผัวเมียจิ๊กซอว์สำคัญคนทำตลาดเมืองสองแควต่อ
วันนี้ (7 มิ.ย.) พล.ต.ต.ภานุ บุรณศิริ ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รอง ผบก.สส.ภ.6, นายปรียภรณ์ สีหะกุลัง ผอ.ป.ป.ส.ภาค 6 ร่วมกันแถลงผลงานการจับกุม นายสิทธิชัย แสงสีมล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.2 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด หนึ่งในเครือข่ายแก๊งยาบ้า “มันทุกเม็ด” เปิดขายยาบ้าผ่านทางเฟซบุ๊กในพื้นที่ทั่วประเทศ
การจับกุมมีขึ้นหลังตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันสืบสวนกรณีนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง คือ นายปัณณวิชญ์ ประทุม หรือโก๋แก่ ที่เปิดเฟซบุ๊กชื่อว่า “ก.โก๋ มันทุกเม็ด และเจ้าพ่อพิษณุโลก” ภูมิลำเนาเป็นคน จ.พิจิตร ปัจจุบันทราบว่าอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (พม่า) ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนเปิดรับสมัครสมาชิกให้รับยาเสพติดไปจำหน่ายให้โดยไม่ต้องลงทุน เพียงแค่มีบัตรประจำตัวประชาชนส่งข้อความมาพูดคุยก็สามารถรับยาเสพติดไปจำหน่ายได้ แล้วค่อยโอนเงินเข้าบัญชีภายหลังที่ได้จำหน่ายยาเสพติดไปแล้ว และยังมีการจูงใจเครือข่ายยาบ้าหน้าใหม่ หากใครนำลูกค้ามาได้จะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้จำนวน 500 บาท
การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และเป็นเหตุให้ยาเสพติดแพร่ระบาดเข้าสู่ผู้ใช้และสังคมได้ง่ายขึ้น เป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบแน่ชัดว่ามีการกระทำผิดเช่นนั้นจริง จึงได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัว โดยอาศัยวิธีการด้านการสืบสวนจนสามารถให้สายลับติดต่อพูดคุยกับนายปัณณวิชญ์เพื่อขอรับยาเสพติดไปจำหน่าย โดยมีการนัดหมายส่งยาบ้าที่บริเวณถนนสายพิษณุโลก-บางระกำ และสามารถจับกุมนายสิทธิชัย แสงสีมล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 2 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด
ส่วนนายชายชนะ หลิมเจริญ ที่นำยาบ้ามาส่งพร้อมกับนายสิทธิชัย ผู้ต้องหา ได้ขับรถยนต์หลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการจับกุมไปตรวจค้นบ้านนายชายชนะ หลิมเจริญ ได้ของกลางยาบ้าเพิ่มอีก 16,000 เม็ด รวมทั้งหมด 18,000 เม็ด มูลค่ากว่า 5 แสนบาท จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ภานุเปิดเผยว่า เครือข่ายแก๊งยาบ้า “มันทุกเม็ด” ที่เปิดขายผ่านทางเฟซบุ๊กเป็นเครือข่ายรายใหญ่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีตัวการใหญ่อยู่ 3 ราย ที่ล้วนสั่งการจากประเทศเพื่อนบ้านคือ นายชาติชาย ฟีมพบุตร ใช้เฟซบุ๊กชื่อ บ.บิ๊ก มันทุกเม็ด, นายปัณณวิชญ์ (โก๋แก่) และนายมารุจณ์ มาตุชินทร์ ใช้เฟซบุ๊ก ก.กล้วย มันทุกเม็ด สั่งการให้เครือข่ายรายเล็กจำหน่ายแทน โดยเปิดขายผ่านทางเฟซบุ๊กมานานกว่า 2 เดือนแล้ว จึงได้วางแผนทำการจับกุมตัวดังกล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่าแก๊งนี้มีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมป่าเถื่อน หากลูกค้ารายย่อยนำยาบ้าไปขายแล้วไม่ยอมโอนเงิน หรือเรียกว่าบิดของ ก็จะสั่งลูกน้องเข้าไปอุ้มและกระทืบ ใช้ไม้เบสบอลทุบตีทำร้ายร่างกาย ก่อนจะถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ไปลงในเฟซบุ๊กเพื่อไม่ให้ลูกน้องรายอื่นๆ ทำเป็นเยี่ยงอย่างและให้เกรงกลัว หากรายใดแข็งข้อก็ส่งมือปืนไปเก็บ โดยมีค่าหัวให้ถึง 20,000 บาท หนักสุดก็จะเอาที่อยู่ในบัตรประชาชนที่พ่อค้ายารายย่อยได้ให้ไว้กับแก๊งนี้ไว้ไปข่มขู่ญาติพี่น้องครอบครัวอีกด้วย
“ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งสืบสวนขยายผลเพื่อทำการจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาบ้า และหากคนร้ายต่อสู้ขัดขืนก็จะต้องวิสามัญทันทีอย่างเด็ดขาดแบบถอนรากถอนโคนอีกด้วย”
สำหรับเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ มีนายปัณณวิชญ์ ประทุม เป็นตัวการใหญ่สำคัญ เปิดเฟซบุ๊กว่า “บ.บิ๊ก มันทุกเม็ด” ฝังตัวอยู่ในฝั่งชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ใช้เฟซบุ๊กในการติดต่อจำหน่ายยาบ้าผ่านนายชายชนะ หลิมเจริญ กับ น.ส.พรรนิภา บัวงามดี สามีภรรยา ที่ทำหน้าที่วางงานและเก็บงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ส่วนนายสิทธิชัย แสงสีมล ที่ถูกจับกุม ได้เปิดเฟซบุ๊กว่า “ป.เปา แกล้ง บ้า” เพื่อเปิดรับสมาชิกใหม่เข้าร่วมเครือข่าย หากสมาชิกรับยาเสพติดไปจำหน่ายแล้วไม่ส่งเงินจะถูกกลุ่มเครือข่ายรายนี้ส่งลูกน้องเข้าไปทำร้ายร่างกาย