ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านรอบตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ร้องสื่อ เดือดร้อนมานานหลายปี หลังแหล่งท่องเที่ยวดังผุด มีการถมที่จนชาวบ้านถูกน้ำท่วม ร้องมาหลายหน่วยงานแต่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ เดือดร้อนหนักหวั่นเจ้าของตลาดน้ำฯ ปิดทางเข้าออกบ้านไม่ได้ วอนแก้น้ำท่วมและเชื่อมถนนให้ หลังจากยกที่ให้เป็นถนนสาธารณะแล้ว
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ระหว่างรอยต่อพื้นที่ ม.4 ต.ห้วยใหญ่ และพื้นที่ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่อยู่ติดกับตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.ชลบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนด้านชีวิตความเป็นอยู่หลังโครงการแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าวเกิดขึ้น
โดยหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า จุดที่ได้รับการร้องเรียนอยู่ภายในซอย สุขุมวิทพัทยา 93 ที่มีการเกลี่ยพื้นที่ทำถนนเข้าบ้าน และมีการติดป้ายว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล และจากการเดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบพื้นที่ส่วนใหญ่ได้ถูกโครงการตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา กว้านซื้อจนเกือบหมดแล้ว และยังพบรถแบ็คโฮของตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา กำลังทำการเกลี่ยหน้าดินเพื่อถมที่ดินของตนเองให้สูงขึ้น และหากมีฝนตกลงมาจะทำให้มวลน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนชาวบ้านจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และจะเป็นเช่นนี้ในทุกครั้งที่มีฝนตกลงมา
จากการสอบถาม นางสมนึก ห้วยใหญ่ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ทราบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษที่สืบต่อกันมา ก่อนที่จะมีโครงการตลาดน้ำ 4 ภาค พัทยา ซึ่งเมื่อความเจริญเกิดขึ้น ทุกครั้งที่มีฝนตกน้ำจะท่วมทะลักเข้ามาในพื้นที่บ้าน และแม้จะร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าทำการช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้ามากนัก
"จึงอยากให้มีการแก้ไขที่ชัดเจน เพราะเวลาฝนตกหนักจะมีมวลน้ำจากฝั่งหนองปรือไหลลงมาสบทบด้วย เมื่อไม่มีท่อระบายน้ำจึงทำให้เออท่วมบ้านตัวเองในที่สุด ซึ่งปัญหาน้ำท่วมขังนี้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้รับผลพวงเรื่องสุขภาพตนเองต้องเจ็บป่วยจากโรคภูมิแพ้และน้ำกัดเท้าอยู่โดยตลอด" นางสมนึก กล่าว
ขณะที่ นางสาวเพ็ญศรี เฮี้ยนชาศรี ชาวบ้านอีกราย เล่าต่อว่า ปกติจะทางเข้า-ออกบ้าน แต่ล่าสุดมีการติดป้ายว่าเป็นถนนส่วนบุคคล ทั้งที่ได้มีการมอบให้เป็นถนนสาธารณะเพื่อใช้งานร่วมกัน
"เมื่อได้รับความเดือดร้อน ก็ได้ไปแจ้งยังเมืองพัทยา เพื่อให้ประสานเจ้าของที่ในการเปิดถนนให้เข้า-ออก ซึ่งก็หวั่นว่าหากเจ้าของที่ปิดทางเข้า-ออกจะทำให้ลำบากมากยิ่งขึ้น"
นางสาวเพ็ญศรี ยังกล่าวอีกว่าในส่วนของถนนหนทางเข้าบ้านนั้น ชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคที่ดินส่วนตัว และเกลี่ยหน้าดินเพื่อใช้เป็นทางเข้าออกสาธารณะ โดยได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่โยธา ให้เข้ามาดำเนินการตั้งแต่เดือน ก.ย.ปี 2560 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า โดยมีเพียงการนำดินมาถมบริเวณจุดเชื่อมต่อถนนสาธารณะริมทางรถไฟเท่านั้น และขณะนี้ผ่านมาประมาณ 6-7 เดือนแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด
สำหรับโครงการตลาดน้ำสี่ภาคตั้งอยู่บนบึงน้ำจืดใกล้สุดเขตเมืองพัทยาฝั่งขาเข้าอำเภอสัตหีบ บนเนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่ากกขนาดใหญ่ ภายใต้มีบึงธรรมชาติ ขนาดใหญ่
ภายในโครงการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้วิถีพอเพียงดั้งเดิมที่ผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน 4 ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยภายใน
เปิดดำเนินการเริ่มมาตั้งแต่ปี 2551โดยได้รับการสนับสนุนจากเมืองพัทยา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและกระทรวงวัฒนธรรม ในการให้ความช่วยเหลือด้านการประชาสัมพันธ์จนติด 1 ใน 30 ของโครงการอันซีนไทยแลนด์
