ศูนย์ข่าวศรีราชา- กรมโยธาธิการ นำที่ปรึกษาฯ รายงานผลการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบรายละเอียดระบบป้องกันน้ำท่วม ชุมชนเมืองพัทยา หลัง มท.มอบหมายให้เป็นภารกิจเร่งด่วน
จากปัญหาการเกิดอุทกภัยในปี 2558 และ 2559 จนส่งผลให้เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรง สร้างความเสียหายมหาศาล ทำให้รัฐบาล เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ทำการศึกษาและออกแบบระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ชุมชน โดยได้จัดสรรงบประมาณปี 2561-2563 จำนวน 1,600 ล้านบาท จัดทำแผนการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบรายละเอียดระบบป้องกันปัญหาน้ำท่วมเมืองพัทยานั้น
ล่าสุดในวันนี้ ( 2 มิ.ย.) นายอภิชาต วีรปาล รองนายกเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นประธานในการพิจารณาผลการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบรายละเอียดระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองพัทยา โดยมี ตัวแทนจากโยธาธิการและผังเมือง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนจาก บริษัท วอเตอร์ ดีเวลลอฟเมนท์ คอนซัลแตนท์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาและสำรวจออกแบบโครงการเข้าร่วมชี้แจงและนำเสนอเป็นเบื้องต้น
โดยตัวแทนจาก บริษัท วอเตอร์ ดีเวลลอฟเมนท์ คอนซัลแตนท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับสภาพปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เมืองพัทยานั้นพบว่ามีลักษณะการท่วมแต่ไม่ขัง โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงน้ำก็สามารถระบายลงทะเลเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้พื้นที่เมืองพัทยาถือว่าเป็นพื้นที่ๆมีความพิเศษเนื่องจากเป็นที่ลุ่มที่ น้ำสามารถไหลลงทะเลได้ตามธรรมชาติ
ดังนั้นหากมีการบริหารจัดการที่ดีก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าในส่วนของท่อระบายน้ำในพื้นที่นั้นมีการดำเนินการไว้แต่อดีตแต่ไม่สามารถที่จะรองรับความเจริญเติบโตที่รวดเร็วได้ทันจึงส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง
สำหรับในส่วนของแนวท่อเดิมนั้นถือว่ามีการวางแนวทางไว้ได้อย่างเหมาะสมแล้ว แต่ขนาดท่ออาจจะไม่สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่มีมากขึ้น ซึ่งกรณีนี้ทางที่ปรึกษาฯได้วางแผนที่จะทำการปรับปรุงงระบบท่อรวมและขนส่งน้ำด้วยการจัดสร้างท่อขนส่งน้ำตามแนวท่อระบายน้ำเดิม
โดยจะคงระบบท่อเก่าไว้แต่จะทำการจัดสร้างระบบท่อขนส่งน้ำใหม่ให้ระดับท่ออยู่ต่ำกว่าระบบระบายเดิมและต่ำกว่าระดับพื้นดินเฉลี่ยด้านบนเพื่อให้น้ำไหลได้อย่างสะดวก พร้อมจัดทำอาคารแบ่งน้ำเพื่อเชื่อมท่อระบายน้ำเดิม และท่อขนส่งน้ำเข้าด้วยกัน จากนั้นจะมีการนำน้ำไปรวมกันก่อนปล่อยลงสู่ทะเล
ด้าน นายสมภพ วันดี รักษาการผู้อำนวยการสำนักการช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา เผยว่า สำหรับแนวทางดังกล่าว ถือว่าเป็นแนวทางที่น่าสนใจและเป็นไปได้ เพราะไม่ได้มีการรื้อท่อเก่าของเมืองพัทยาทิ้งก็จะทำให้การดำเนินการอาจใช้ระยะเวลาไม่นาน แต่ปัญหาที่ทางเมืองพัทยาเป็นห่วงก็คือเรื่องของการรวมน้ำทุกสายลงท่อเดียวแล้วปล่อยลงสู่ทะเล โดยเกรงว่าน้ำฝนที่ไหนมาจากด้านบนเป็นจำนวนมากขึ้น อาจจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลในระยะยาวได้ เพราะสัตว์น้ำอาจเกิดอาการน็อกน้ำเมื่อมีน้ำจืดจำนวนมหาศาลไหลปะปนกับน้ำทะเล จึงอยากให้เร่งศึกษาแนวทางและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
ขณะที่ นายอภิชาต วีรปาล รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการแนวทางดังกล่าวถือว่าเป็นแนวทางที่ดีที่จะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบของเมืองพัทยาได้ แต่ปัญหาที่กังวลที่จะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างการก่อสร้างก็คือเรื่องของการขุดเจาะถนนสาธารณะ ซึ่งจำเป็นต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านการเจาะถนนมาเป็นที่ปรึกษาเพราะสภาพภูมิศาสตร์แต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน และอาจส่งผลต่อระยะเวลาในการดำเนินการได้ นอกจากนั้นการวางระบบท่อควรมีแผนในการนำสายไฟลงดินไปพร้อมๆกันเพื่อเป็นการป้องกันการทำงานที่ซ้ำซ้อน อีกทั้งปัญหาการจราจรในระหว่างการก่อสร้างโครงการก็จะต้องมีการวางแนวทางรับมือที่ดีด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับกากรดำเนินการในวันนี้เป็นการรายงานการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบรายละเอียดครั้งแรก ก่อนประชุมเพื่อประชาสัมพันธ์และรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ก่อนนำเสนอรายงานศึกษาความเหมาะสม รายงานความก้าวหน้าออกแบบรายละเอียด ฉบับที่ 1 ต่อไป