xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายชุมชนเมืองเชียงใหม่เตรียมยื่นเทศบาลฯ จี้ตรวจสอบกรณีวัดดังดื้อสร้างตึกค้ำหอไตรเก่าแก่ร้อยปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่เตรียมทำหนังสือจี้ทวงถามกรณีวัดอู่ทรายคำกลับมาเดินหน้าก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น ตั้งประชิดและสูงกว่าหอไตรไม้โบราณเก่ากว่าร้อยปี อีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ถูกคำสั่งระงับก่อสร้างและต้องรื้อ ย้ำบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี ขณะเดียวกันเล็งแจ้งละเว้นปฏิบัติหน้าที่หลังปล่อยผ่านนานกว่าปีโดยไม่มีการดำเนินการตามกฎหมาย



ความคืบหน้ากรณีวัดอู่ทรายคำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างอาคารสูง 4 ชั้น ตั้งประชิดและสูงกว่าหอไตรไม้โบราณเก่ากว่าร้อยปี จนถูกตรวจสอบและมีคำสั่งจากเทศบาลนครเชียงใหม่ระงับการก่อสร้างตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 เพราะก่อสร้างไปโดยยังไม่ได้รับอนุญาตและไม่เว้นระยะห่างจากจุดกึ่งกลางถนน 6 เมตร โดยให้วัดทำการปรับแบบและยื่นขออนุญาตใหม่เพื่อพิจารณาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ทางวัดไม่มีการดำเนินการใดๆ กระทั่งล่าสุดพบว่าทางวัดเริ่มกลับมาทำการก่อสร้างอาคารหลังดังกล่าวอีกอย่างต่อเนื่อง ทั้งการก่อผนังอาคารและติดตั้งโครงสร้างหลังคา ซึ่งชาวชุมชนใกล้เคียงวัดพบเห็นและแจ้งให้เทศบาลนครเชียงใหม่เข้าตรวจสอบ พร้อมสั่งให้ทางวัดยุติการก่อสร้างไว้ แต่ยังไม่เป็นผล



วันนี้ (31 พ.ค. 61) จากการสังเกตการณ์พบว่ายังคงมีคนงานเข้าทำงานก่อสร้างอาคารดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มีการติดตั้งแผ่นสังกะสีปิดบังรอบอาคารที่กำลังก่อสร้าง และมีการทำทางเข้าออกเฉพาะของคนงานด้วยการบังคับให้ต้องเข้าออกผ่านอาคารเดิมของวัดเท่านั้น ป้องกันคนภายนอกเข้าไป

ขณะที่นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ซึ่งติดตามกรณีการก่อสร้างอาคารดังกล่าวและเรียกร้องให้ดำเนินการให้ถูกต้องตั้งแต่แรก เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในชุมชนรอบวัดแจ้งว่าทางวัดได้เริ่มกลับมาดำเนินการก่อสร้างอาคารอีกครั้ง ซึ่งต่างเกิดความสงสัยว่าสามารถทำได้อย่างไรเพราะทางเทศบาลนครเชียงใหม่มีคำสั่งระงับการก่อสร้างและปรับปรุงแบบ รวมทั้งรื้อส่วนที่ไม่เว้นระยะห่างจากถนนตามกฎหมาย ทั้งนี้ ได้มีการสอบถามไปยังเทศบาลนครเชียงใหม่ทราบว่าทางวัดได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไปที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเมื่อตามเรื่องไปทราบว่าได้มีการยกคำร้องที่ทางวัดได้อุทธรณ์ไปแล้ว และทางวัดต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเทศบาลนครเชียงใหม่ หากไม่ปฏิบัติตามทางเทศบาลนครเชียงใหม่ต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยบอกด้วยว่าในช่วงที่มีคำสั่งระงับการก่อสร้างและยื่นอุทธรณ์คำสั่งนั้น ทางวัดต้องยุติการก่อสร้าง หากฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดเช่นกัน


ทั้งนี้ ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่บอกว่า ภายในไม่กี่วันนี้เตรียมทำหนังสือติดตามทวงถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวไปยังเทศบาลนครเชียงใหม่ และเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและถูกต้อง เพราะไม่เช่นนั้นจะมีกฎหมายไว้เพื่ออะไร โดยกรณีดังกล่าวนี้เกิดขึ้นมานานนับปีแล้วแต่ยังไม่เห็นว่ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดจริงจังอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งหวั่นเกรงว่ากรณีนี้จะส่งผลกระทบต่อการผลักดันเชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก เพราะกรณีนี้เกี่ยวข้องกับการรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรมของเมือง และในกรณีอยากให้วัดเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง เพราะวัดควรเป็นแบบอย่างในการสั่งสอนให้ทุกคนทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ทำผิดเสียเอง


สำหรับอาคารดังกล่าวนั้น ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ยืนยันว่า หากก่อสร้างอย่างผิดกฎหมายและมีคำสั่งให้รื้อก็มีความจำเป็นและเห็นควรว่าจะต้องรื้อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมองว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติหน้าที่และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย เพราะกรณีปัญหานี้เกิดขึ้นมานานกว่าปีแล้วและถือว่ามีความล่าช้ามามากพอแล้ว ทั้งนี้ แม้จะอยากให้การแก้ไขปัญหานี้เป็นไปในลักษณะพูดคุยเจรจาหาทางออกกันด้วยดี แต่หากถึงที่สุดแล้วยังไม่มีความคืบหน้าอาจจะต้องพิจารณาในเรื่องของการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย เพราะมีการนำคำสั่งไปปิดประกาศไว้แต่ไม่ปฏิบัติตาม

รายงานข่าวแจ้งว่า วัดอู่ทรายคำ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีที่มีการเปิดให้บริการที่พักแก่นักท่องเที่ยวในลักษณะที่คล้ายกับโรงแรม โดยผู้ที่เข้าพักหลายรายต่างประทับใจห้องพักและการบริการจนมีการนำไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปและตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเหมาะสม ต่อมาพบว่าทางวัดมีการก่อสร้างอาคารสูง 4 ชั้นดังกล่าว ซึ่งมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าน่าจะเป็นการสร้างห้องพักเพิ่มเพื่อรองรับการให้บริการ โดยจากแบบแปลนที่มีการเปิดเผยพบว่าเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้น สูง 12 เมตร ตามแบบมีลักษณะเป็นห้องพักเดี่ยว แต่ละห้องมีขนาดกว้างประมาณ 3.8 เมตร ยาว 5 เมตร รวมทั้งหมด 19 ห้อง ซึ่งทุกห้องมีห้องน้ำในตัว อย่างไรก็ตามทางวัดอ้างว่าอาคารดังกล่าวเป็นกุฏิ



กำลังโหลดความคิดเห็น