ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวพัทยาใต้..โวยโครงการปรับภูมิทัศน์คลองพัทยาใต้ ทำคลองคับแคบซ้ำยังสร้างปัญหาน้ำท่วมขังไม่มีวันจบ เผยแม้รื้อถอนอาคารรุกล้ำจนสามารถขยายคลองได้สำเร็จ แต่สุดท้ายกลับตั้งโครงการใหม่ที่สร้างปัญหาให้มากกว่า
วันนี้ (31 พ.ค. ) นายเมธากฤษณ์ สุนทรรส ประธานชุมชนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงผลกระทบที่เกิดจากนโยบายของภาครัฐ ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ด้วยการรื้อถอนอาคารที่รุกล้ำคลองพัทยาใต้ ,คลองปึกพลับ และคลองนกยาง ว่าแม้จะสามารถเปิดคลองให้มีความกว้างขวางขึ้นจนน้ำสามารถไหลผ่านได้โดยสะดวก โดยเฉพาะพื้นที่คลองพัทยาใต้ ซึ่งมีการขยายแนวคลองกว้างจากเดิมเป็นอย่างมาก แต่ที่ผ่านมาเมื่อมีฝนตกหนักพื้นที่บริเวณปากคลองพัทยาใต้ หน้าโครงการวอล์คกิ้งสตรีท กลับเกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ เมืองพัทยา ได้ว่าจ้างผู้รับเหมาให้ทำการปรับสภาพภูมิทัศน์ตลอดแนวคลอง เพื่อขยายพื้นที่คลองให้เกิดความสวยงาม และยังมีแผนการก่อสร้างท่อรับน้ำเสียขนาบทั้ง 2 ด้านแยกจากน้ำฝนเพื่อปล่อยน้ำไหลลงสู่ทะเล
ทำให้น้ำเสียที่จะไหลเข้าสู่สถานีสูบเพื่อสูบส่งไปบำบัดไหลย้อนกลับมนท่วมบ้านเรือนประชาชนและชุมชน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวจนเสียหาย
"และอีกปัญหาที่สำคัญคือ ประตูระบายน้ำบริเวณปากคลองที่ปล่อยไหลลงสู่ทะเล เกิดการชำรุด และเมื่อมีฝนตกหนักกลับไม่มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเข้ามาเปิดประตูระบายน้ำออก เรื่องนี้แม้ว่าที่ผ่านมา ทางชุมชนจะเสนอขอเข้าไปตรวจสอบและช่วยแก้ไขปัญหาก็ถูกปฏิเสธ สิ่งสำคัญคลองพัทยาใต้ แต่เดิมมีขนาดกว้างขวางแต่ถูกบดบังด้วยสิ่งปลูกสร้างลุกล้ำ เมื่อมาดำเนินการรื้อถอนออก เมืองพัทยากลับออกแบบที่ทำให้คลองคับแคบลงเช่นเดิม จนบางช่วงโดยเฉพาะต้นคลองมีลักษณะเป็นคอขวดน้ำจึงเกิดการท่วมขังไม่รู้จักจบสิ้น ขณะที่แผนการปรับภูมิทัศน์คลองพัทยาใต้เองเมืองพัทยาก็ไม่เคยลงมาพูดคุยหรือสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านว่าเหมะสมหรือไม่ จึงมองว่าการดำเนินการดังกล่าวนั้นอาจจะไม่ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม "
นายเมธากฤษณ์. ยังกล่าวอีกว่าขณะนี้ประชาชนในเขตพัทยาใต้ เห็นว่าเมืองพัทยา ควรเดินระบบท่อฝังลงใต้ดิน และเปิดให้คลองมีลักษณะกว้าง ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับน้ำฝนได้จำนวนมาก และจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังอย่างไม่มีวันจบได้อย่างแน่นอน
