บุรีรัมย์ - พ่อแม่นักเรียนหญิง ม.3 อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกครูหื่นบังคับข่มขืนนาน 2 ปีที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย และเอาผิดวินัย เข้าแจ้งความเพิ่ม หลังครูส่งคนมาตามคุกคามหลอกล่อให้เด็กออกไปหา ทั้งส่งทนายมาเจรจาตื๊อขอแต่งงานหวังให้จบเรื่อง พ่อแม่ยันเอาผิดตามกฎหมายถึงที่สุด ห่วงความปลอดภัยลูก
วันนี้ (30 พ.ค.) จากกรณีที่ผู้ปกครองของน้องเอ (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีลักษณะเป็นทอมบอย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ทั้งร้องขอความช่วยเหลือหลายหน่วยงาน กรณีลูกสาวถูกข้าราชการครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน ต.หนองกง อ.นางรอง บังคับล่วงละเมิดทางเพศมานานร่วม 2 ปี กระทั่งวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าชาร์จจับกุมครูคนดังกล่าวได้ขณะบังคับนักเรียนชั้น ม.3 ไปกระทำชำเราที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ทั้งได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย และขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง หลังจากพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งตามขั้นตอนแล้ว ส่วนครูที่ถูกกล่าวหาได้ยื่นประกันตัวต่อสู้คดี ตามที่เสนอข่าวมาก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด นายเตชะ ทับทอง ตัวแทนเพจบีคอส วีแคร์ ได้พาพ่อแม่ของนักเรียนชั้น ม.3 ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง เพิ่มเติม หลังข้าราชการครูคนดังกล่าวได้ส่งคนมาตามคุกคาม ทั้งหลอกล่อให้พา ด.ญ.ชั้น ม.3 ออกไปหา และยังส่งทนายความมาที่บ้านเพื่อเจรจาตื๊อขอแต่งงานกับเหยื่ออีกด้วย จึงสร้างความกังวลใจให้แก่ครอบครัวและผู้เสียหายเกรงจะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะขนาดอยู่ระหว่างการดำเนินคดียังส่งคนมาตามคุกคามโดยไม่มีความเกรงกลัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้ พร้อมทั้งจะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแลความปลอดภัยให้ด้วย
โดยแม่ของนักเรียนชั้น ม.3 บอกว่า หลังจากครูคนดังกล่าวได้ส่งคนมาคุกคาม ทั้งส่งทนายมาที่บ้านเพื่อเจรจาขอตื๊อแต่งงานกับลูกสาว ก็สร้างความกังวลใจให้แก่ครอบครัว และตัวลูกสาว เพราะไม่รู้ว่ามีเจตนาอะไรที่แท้จริง และกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะลูกสาวที่ต้องไปเรียนหนังสือเริ่มมีอาการเครียดจนไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว จึงจำเป็นต้องเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน พร้อมยืนยันอยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อครูที่กระทำกับลูกสาวของตนเองถึงที่สุด และอยากให้เป็นคดีตัวอย่างเพื่อที่จะได้ไม่ไปเกิดแก่ลูกหลานใครแบบนี้อีก
ส่วนข้าราชการครูที่ถูกแจ้งความกล่าวหา เบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือ “พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง, พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจารแม้เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นอัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องศาลตามกระบวนการ
