จันทบุรี - พายุฝนลมแรง พัดถล่มสวนทุเรียนใน ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว ได้รับความเสียหายอีกครั้ง โดยพบต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง อายุกว่า 30 ปี ล้มหักโค่น เช่นเดียวกับต้นทุเรียนอีกหลายต้นในสวนของชาวบ้าน และยังมีลูกทุเรียนที่พร้อมเก็บขายร่วงหล่นเสียหายรวมกว่า 1 ต้น ด้าน นอภ.แก่งหางแมว และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งลงพื้นที่สำรวจ เบื้องต้นสั่งทำตำหนิบนทุเรียนอ่อน กันเล็ดลอดออกสู่ตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.40 น.วันนี้ ( 14 พ.ค.) ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี จนทำให้สวนทุเรียนของชาวบ้านในพื้นที่ ม. 10 ต.ขุนซ่อง ถูกพายุพัดจนต้นล้มหักโค่น ลูกร่วงหล่นลงพื้นที่เสียหายเป็นจำนวนมาก และเมื่อฝนหยุดตก นายปฏิณญา พานิชอัตรา นายอำเภอแก่งหางแมว พร้อมด้วย นายเดช จินโนรส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่อง ,กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหาย
โดยพบว่าที่สวนทุเรียนของ นายปัญญา ภาคจิตร อายุ 53 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 161 ม.ที่ 10 ต.ขุนซ่อง มีต้นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง อายุกว่า 30 ปี ที่กำลังจะเก็บผลผลิตออกขายในวันพรุ่งนี้ ถูกพายุลมแรงพัดต้นจนล้มหักโค่นในสภาพถอนรากถอนโคนได้รับเสียหาย เช่นเดียวกับต้นทุเรียนภายในสวนอีกว่า 10 ต้น จนทำให้ลูกทุเรียนร่วงหล่นเสียหายกว่า 1 ตัน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1 แสนบาท
เบื้องต้น นายอำเภอแก่งหางแมว ได้สั่งการให้ผู้นำชุมชน และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลขุนซ่อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยา ส่วนผลผลิตทุเรียนที่ร่วงหล่นได้สั่งให้มีการคัดแยก ซึ่งหากเป็นทุเรียนที่มีเนื้อมากก็ยังสามารถนำไปแปรรูปได้ แต่หากเป็นทุเรียนอ่อน จะต้องทำการพ่นสีเพื่อกันไม่ให้เกษตรกรนำออกขายสู่ตลาด และให้ทำการฝั่งกลบในทันที
และจากการสำรวจพื้นที่ยังพบว่า สวนทุเรียนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันยังถูกพายุลมแรงพัดจนต้นทุเรียนล้มหักโค่นเสียหาย 2 ต้น กิ่งฉีกขาดกว่า 5 ต้น และลูกร่วงหล่นเสียหายกว่า 50 ลูก
นายปฏิณญา นายอำเภอแก่งหางแมว กล่าวว่าเหตุวาตภัยที่เกิดขึ้น ขณะนี้หลายหน่วยงานได้ลงพื้นตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว โดยในเบื้องต้น พบว่ามีต้นทุเรียน ถูกลมพัดหักโค่นเสียหาย 10 ต้น และลูกร่วงทุเรียนหล่นเสียหายกว่า 1 ตัน