xs
xsm
sm
md
lg

เถ้าแก่รีสอร์ต-รอส.เขาค้อรวมตัวโต้ข้อหารุกป่า ยันใช้ชีวิต-เลือดเนื้อแลกมา แต่หนี้ล้นจนจำใจขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เพชรบูรณ์ - เถ้าแก่รีสอร์ต-รอส.เขาค้อ พร้อมทนายความ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรียกร้องความเป็นธรรม หลังเจ้าหน้าที่เดินหน้าตรวจสอบ-แจ้งจับ 135 รีสอร์ต ยัน รอส.ไม่ได้รุกป่า แต่ใช้ชีวิต-เลือดเนื้อสู้คอมมิวนิสต์ก่อนทหารพามาอยู่ ระบุเพราะหนี้ล้นจนต้องจำใจขาย


วันนี้ (14 พ.ค.) นายสมศักดิ์ ทองจันทร์ ประธานเครือข่ายสภาองค์กรชุมชน 4 ตำบลของ อ.เขาค้อ, นายโสภา เปรมโสภณ ราษฎรอาสาสมัคร (รอส.), นายไพศาล เพชรวรา ทนายความ, นางบุปผา จันทร์เพ็ง ประธานชมรมคนรักษ์เขาค้อ พร้อมกลุ่มตัวแทนรีสอร์ตเขาค้อ ชาวบ้านที่เป็น รอส.พื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ราว 300 คน รวมตัวกันที่วัดราชพฤกษ์ ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ

เพื่อร่วมกันแถลงข่าวชี้แจง-ชูป้ายเรียกร้องและขอความเป็นธรรม หลังถูกคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีต่อ 135 รีสอร์ตนอกแปลง รอส.และอยู่ในเขตป่า จ.เพชรบูรณ์ โดยมีพระครูชัยพิชิตพัชรสถิต เจ้าอาวาสวัดราชพฤกษ์ เข้าร่วมด้วย

นายสมศักดิ์กล่าวย้ำว่า หลังการต่อสู้ที่ต้องแลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิต 15 ปี วันนี้ต้องมาต่อสู้กับอะไร ชาวเขาค้อมีความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว และอยากให้ความรู้สึกนี้ย้อนกลับไปสู่คนที่คิดไม่ดีกับชาวเขาค้อ

ขณะที่นายโสภากล่าวถึงสภาพความเป็นอยู่ของ รอส.ที่ได้รับจัดสรรที่ดิน และสาเหตุจากขาดทุนประกอบอาชีพมีหนี้สินจึงจำเป็นต้องขายที่ดินออกไป และเป็นเหตุผลสำคัญในการทำผิดเงื่อนไข 9 ข้ออย่างจำใจ รวมทั้งมีการปักเขตและประกาศเขตป่าสงวนไปทับที่ รอส. แล้วก็ไปบอกว่า รอส.บุกรุก ซึ่งไม่ยุติธรรมกับ รอส.เป็นอย่างยิ่ง

ด้านนายไพศาลได้ตั้งข้อสงสัยถึงเงื่อนไข 9 ข้อที่ภาครัฐอ้างถึงจะใช้ได้จริงหรือไม่ และยังตั้งคำถามถึงภาครัฐเรื่องการปลด รอส.จะทำได้หรือเปล่า ในเมื่อกฎหมายป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งทำให้ออกข้อบังคับมาได้ถูกยกเลิกไปแล้ว


ส่วนนางบุปผาพาดพิงถึงบ้านพักทหารม้า ซึ่งมีรายได้ปีละกี่ล้านไม่รู้ และเขาค้อลอร์ด รวมทั้งบ้านพักในอุทยานฯ พร้อมตั้งคำถามว่าจะมีกฎหมายอะไรก็ตามที่ทำให้สร้างได้ แล้วทำไมไม่เปิดกฎหมายให้ประชาชนทำได้บ้าง นอกจากนี้ยังย้ำด้วยว่า คนเขาค้อกดดันมามากแล้วก็พร้อมจะต่อสู้กันให้ถึงที่สุด

“คุณกลัว 157 จากใครก็ไม่รู้ แต่คุณไม่กลัว 157 จากประชาชนโดยเฉพาะจาก 4 ตำบลบ้างหรือไร”

ก่อนเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายปรีชา เดชบุญ เลขานุการเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อ่านแถลงการณ์ชี้แจงและข้อเรียกร้องรวม 8 ข้อ ซึ่งมีเนื้อหาสรุปว่า ชาวเขาค้อไม่ได้บุกรุกป่า เพราะทหารพาชาวบ้านมาอยู่อาศัยให้ทำกินก่อนจะมาประกาศเป็นเขตป่าสงวนทับที่ดินชาวบ้าน, ทางทหารไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการขอใช้พื้นที่ใหม่ตามเงื่อนไขข้อ 9 ของมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2509 และ 25 ม.ค. 2518 ซึ่งให้ผู้รับอนุญาตจะต้องยื่นคำขอทำประโยชน์ต่อกรมป่าไม้อีกครั้งหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ทันที

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า พื้นป่าบนเขาค้อถูกทำลายตั้งแต่ครั้งการสู้รบ และจากการให้สัมปทานป่าไม้กับภาคเอกชนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507-2509 รวมทั้งการโค่นต้นไม้ทำที่อยู่ให้ รอส., ปัญหาหนี้สินทำให้ รอส.จำเป็นต้องขายที่ดินให้กับผู้หลงใหลในภูมิอากาศ กระทั่งมีการพัฒนาเป็นที่พักตากอากาศและรีสอร์ต จึงทำให้ผิดกฎเหล็ก 9 ข้อ

นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ปรับรูปแบบการแจ้งดำเนินคดีใหม่ ให้ผู้ถูกกล่าวหาไปแสดงตัวและไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว พร้อมยื่นข้อเสนอแผนพัฒนาของเครือข่ายสภาฯ โดยให้ อบต.หนองแม่นา, อบต.เขาค้อ ผู้ขอใช้ประโยชน์ในฐานะนิติบุคคล

หากได้รับอนุญาต ให้นำร่องในพื้นที่ อบต.หนองแม่นา ด้วยการสำรวจการครอบครองใหม่ โดยใช้ข้อมูลในปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐ แยกประเภท รอส., ทายาท รอส., ผู้ครอบครองรายใหม่ที่ทำการเกษตร, ผู้ครอบครองใหม่ที่ประกอบการ

และนำเสนอแผนแบบบูรณาการจากการมีส่วนร่วม นำแผนโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็กเดิม, โครงการศาสตร์พระราชา, โครงการเศรษฐกิจพอเพียง มาผสมผสานปรับใช้ ร่วมกับแนวทางการขอใช้ที่ดินเป็นแปลงรวม ทำข้อบัญญัติตำบลและเสนอขอใช้พื้นที่ตามระเบียบของกรมป่าไม้ต่อผู้มีอำนาจต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น