บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ส่งเสริมพนักงานในทุกพื้นที่ประกอบกิจการ ทั้งโรงงาน และฟาร์มทั่วประเทศมีส่วนร่วมดูแล รับผิดชอบ พัฒนาชุมชนและสังคม รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชน พร้อมมอบรางวัล “โครงการ 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน” เพื่อเป็นกำลังใจให้พนักงานสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ สู่สังคม
นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ เป็นประธานมอบรางวัล 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน กล่าวว่า การจัดประกวดโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้รางวัลสามประโยชน์สู่ความยั่งยืน เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งการมอบรางวัลในวันนี้ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานที่มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท โดยโครงการที่ได้รับรางวัลจะเป็นต้นแบบให้โรงงาน และฟาร์มอื่นๆ ได้นำไปปฏิบัติ
“ซีพีเอฟในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” ยึดปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ คือ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท โดยเฉพาะในพื้นที่ประกอบกิจการของซีพีเอฟ ซึ่งมีทั้งโรงงาน และฟาร์มที่สามารถใช้ขีดความสามารถของเราในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดีขึ้นควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจ” นายสุขสันต์ กล่าว
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า รางวัลด้านความรับผิดชอบต่อสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นส่วนหนึ่งของการปลุกจิตสำนึก และส่งเสริมพนักงานมีส่วนร่วมกับชุมชนสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พนักงานเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ช่วยเหลือชุมชน และมองว่าทุกคนเป็นพี่น้องที่เราต้องช่วยกันดูแล ชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของเราที่จะร่วมอยู่ร่วมเจริญไปด้วยกัน
โครงการ 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน แบ่งเป็น 6 ประเภท คือ 1.ด้านอาหารมั่นคง 2.ด้านสังคมพึ่งตน 3.ด้านดินน้ำป่าคงอยู่ 4.ด้านส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงาน 5.ด้านส่งเสริมบรรยากาศของสถานที่ทำงาน และ 6.ด้านการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งในปี 2560 มีสายธุรกิจที่ส่งโครงการเข้าร่วม 32 โครงการ พิจารณารางวัลโดยกรรมการภายใน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ประกอบด้วย นักวิชาการอิสระด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้แทนศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ผลการพิจารณามีโครงการที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม 8 โครงการ รางวัลดีเด่น 7 โครงการ และรางวัลชมเชย 11 โครงการ
สำหรับโครงการที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม 8 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต โรงเรียนบ้านใหม่สำโรง 2.โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต โรงเรียนบ้านคลองยางมูลบนอุปถัมภ์ 3.โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต โรงเรียนบ้านวังใหญ่ 4.โครงการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาสินค้าชุมชนบ้านหนองพยอม 5.โครงการศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานแบบเศรษฐกิจพอเพียงบ้านดอนวัว 6.โครงการเศรษฐกิจพอเพียงการทำปุ๋ยหมักชีวภาพนาโน 7.โครงการสวนป่าชุมชน โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร และ 8.โครงการปลูกป่าเชิงนิเวศในชุมชนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า
นอกจากมอบรางวัล 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืนแล้ว ยังมี 2 โครงการที่ได้รับรางวัลแหล่งเรียนรู้ โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต คือ โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต โรงเรียนบ้านใหม่สำโรง และโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต โรงเรียนบ้านคลองแขยง ได้รับคัดเลือกให้เป็น 2 โรงเรียนนำร่องเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบด้านอาหาร และโภชนาการในโรงเรียนและชุมชน
นายบุญเชียร พัลพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจครบวงจรส่งออกสระบุรี และไก่เหนือ-กลาง ผู้รับผิดชอบโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต โรงเรียนบ้านใหม่สำโรง ซึ่งเป็น 1 ในโครงการที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม รางวัลโครงการ 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน กล่าวว่า บริษัทฯ เห็นปัญหาของโรงเรียนในพื้นที่ว่ามีปัญหาเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาด้านภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งสอดคล้องต่อเป้าหมายของซีพีเอฟที่มุ่งมั่นมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงอาหารที่มีโภชนาการที่ดี จึงได้เข้าไปสนับสนุนโรงเรียนบ้านใหม่สำโรง ด้วยการถ่ายทอดความรู้ให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้การปลูกผัก เลี้ยงไก่ เพาะเห็ด หลังจากริเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน พบว่า ปัญหาภาวะโภชนาการของเด็กลดลงมาโดยตลอด ไม่พบเด็กนักเรียนที่มีปัญหาภาวะโภชนาการขาด (ผอมและเตี้ย) แล้ว
นอกจากนี้ มีการขยายผลสู่ชุมชน แบ่งปันทักษะด้านการเกษตร สร้างอาชีพและรายได้แก่ชุมชน เช่น โครงการเห็ดพอเพียง โครงการที่ชาวบ้านเรียนรู้วิธีการเพาะเห็ดแล้วนำไปทำเองที่บ้าน ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้แก่ครัวเรือน