ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เหยื่อเก๋งยาริสสีขาวชนแล้วหนี ยังอาการหนักต้องผ่าเปิดกะโหลกและนอนห้องไอซียูตลอด ไร้เงาคนชนเข้าเยี่ยมหรือติดต่อพูดคุย ขณะที่พยานเห็นเหตุการณ์ระบุได้ยินเสียงเบรกดังสนั่นก่อนหันไปเห็นรถเก๋งพุ่งชนท้ายอย่างแรง ก่อนที่จะชะลอความเร็วลงเล็กน้อยทำให้เห็นลักษณะและป้ายทะเบียนรถ แต่สุดท้ายไม่ยอมจอดลงมาดูผู้บาดเจ็บและขับหนีไป
ความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Ziiang Huangsuwannakorn” ได้โพสต์ภาพคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ขาเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ บริเวณตลาดสามแยก อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นภาพเหตุการณ์ช่วงเวลาประมาณ 23.20 น.ของวันที่ 9 พ.ค. 61 ที่รถยนต์เก๋งสีขาวคันหนึ่งขับชนจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดงอย่างแรงแล้วขับหลบหนีไปทางถนนวงแหวนด้านหลังมหาวิทยาลัยพายัพ โดยที่ไม่เหลียวแลคนขี่จักรยานยนต์แม้แต่น้อย ซึ่งหนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่ารถยนต์ดังกล่าวเป็นรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียนมี 3 ตัว ขึ้นต้นด้วย 74 โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่าคนขี่จักรยานยนต์เป็นน้าสาวของตัวเองที่กำลังขี่รถกลับบ้าน หลังจากถูกชนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่กะโหลกศีรษะและอวัยวะภายในต้องพักรักษาตัวในห้องไอซียูตลอด จึงนำคลิปวิดีโอและเรื่องราวมาโพสต์เพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อาจจะเห็นเหตุการณ์หรือมีเบาะแสใดๆ ในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ
โดยหลังจากที่มีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวปรากฏว่ามีผู้แชร์ต่อเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็วและต่อมามีหญิงสาวคนหนึ่งนำรถยนต์เก๋ง โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กห 740 เชียงใหม่ เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสันทราย เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 61 ยอมรับว่าเป็นคนขับรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ก่อนที่จะหลบหนีไป อ้างว่าตกใจ แต่ไม่ได้เมา อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แต่จะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบร่องรอยการชนและพยานหลักฐานต่างๆ ให้แน่ชัด เพื่อยืนยันว่าเป็นคนขับรถและรถยนต์ที่ก่อเหตุจริง จึงจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายวสุ ปัญญาวิริยกุล อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวใกล้ที่เกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์และแจ้งข้อมูลของรถยนต์ที่ชนจักรยานยนต์แล้วหลบหนี เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 23.20 น.ของคืนวันที่ 9 พ.ค. 61 ระหว่างนั้นตัวเองและภรรยากำลังเก็บร้านอยู่ ได้ยินเสียง รถยนต์เบรกดังสนั่น จึงหันไปดูแล้วเห็น รถยนต์ที่ขับมาตามถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ขาเข้าเมืองชนท้ายจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดงอยู่จนกระเด็น โดยคนขี่จักรยานยนต์ลอยกระแทกเข้ากับบริเวณหน้ารถยนต์ ก่อนที่จะตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง
ส่วนรถยนต์ได้ขับต่อไปทันที ก่อนที่จะมาชะลอบริเวณหน้าร้านของตัวเอง ห่างจากจุดที่ชนประมาณ 50-60 เมตร คล้ายลังเลใจว่าจะจอดหรือไม่ ทำให้เห็นว่าเป็นรถยนต์ ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียนเป็นตัวเลข 3 ตัว ขึ้นต้นด้วย 74 สุดท้ายรถยนต์ไม่ได้จอดและขับหลบหนีไป ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างกันรีบเข้าไปช่วยคนขี่จักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บ และทำให้ทราบด้วยว่าจักรยานยนต์ขี่มาด้วยกัน 2 คัน โดยทั้ง 2 คันเป็นเพื่อนกัน และมาจอดติดไฟแดงพร้อมกัน อีกคันหนึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่รถได้รับความเสียหาย ซึ่งหลังจากช่วยคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้วยังไม่ทราบว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าน่าจะอาการค่อนข้างหนักมาก โดยเอาใจช่วยให้ปลอดภัยและหายในเร็ววัน ขณะที่คนที่ขับรถยนต์ชนนั้น อยากให้มาแสดงความรับผิดชอบด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บของคนขี่จักรยานยนต์ที่เป็นหญิงอายุ 54 ปี ที่ถูกชนยังอยู่ในขั้นวิกฤตต้องผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ และนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูตลอด ส่วนหญิงสาวที่เข้าพบพนักงานสอบสวนยอมรับว่าเป็นคนขับรถยนต์ชนก่อนที่จะหลบหนีไปนั้น จากการสอบถามครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่ายังไม่ได้ติดต่อหรือเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด
