หนองคาย - ครอบครัว มุทาพร รับศพ ส.ต.ท.ศรันธ์ มุทาพร ตำรวจกล้าปะทะผู้ต้องหายาเสพติด จนตัวถูกยิงตกน้ำเสียชีวิต กลับบ้านที่หนองคาย ตำรวจตั้งขบวนรถศพสมเกียรติ รอรดน้ำศพบ่ายนี้ ผกก.ผู้เป็นพ่อเผยวินาทีลูกขอชีวิตแต่ยังถูกยิงซ้ำ ยิงฟังยิ่งช้ำ เตือนโจรทุกคนอย่าคิดสู้ตำรวจ
เมื่อเวลาประมาณ 10.10 น. วันนี้ (12 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้เคลื่อนศพ ส.ต.ท.ศรันธ์ มุทาพร ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บ้านแฮด ปฏิบัติราชการ บก.สส.ภ.4, ที่ถูกนายสุริยันต์ เหล็กเพชร หรือน้อย ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ยิงตกน้ำเสียชีวิตในลำน้ำปาว อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ค. 61 ซึ่งพบศพ ส.ต.ท.ศรันธ์ ลอยขึ้นมาจากน้ำช่วงเที่ยงวันที่ 11 พ.ค. 61 และได้นำศพผ่าพิสูจน์เป็นที่เรียบร้อย จึงได้นำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลากุศลสงเคราะห์ วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง อ.เมืองหนองคาย
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้ตั้งแถวเกียรติยศรับศพอย่างสมเกียรติ มี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย บิดา ส.ต.ท.ศรันธ์, นางพัชรี มุทาพร มารดา และครอบครัวมุทาพร มารอรับศพด้วยความเศร้าเสียใจ โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในเวลา 15.00 น.
พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวเปิดใจด้วยน้ำตาคลอว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะ ส.ต.ท.ศรันธ์ หรือโอม เป็นลูกชายคนเดียวและคนสุดท้องที่รักมาก และมีใจรักการเป็นตำรวจเหมือนพ่อ ภูมิใจที่ลูกเป็นคนกล้าเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง คนร้ายที่ก่อเหตุก็ได้รับกรรมไปแล้วเมื่อไปต่อสู้กับตำรวจชุดจับกุมจึงถูกวิสามัญฯ ไปเมื่อคืนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสนใจห่วงใยและติดตามคดีอย่างใกล้ชิด ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติงานก็จะกำชับเสมอว่าอย่าประมาท ต้องวิเคราะห์เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ให้ขาด มีเซนส์ที่ดี
วันเกิดเหตุกำลังอาจมีน้อยไปหน่อย คนร้ายจึงกล้าต่อสู้ ตนคาดว่าลูกคงประเมินสถานการณ์ผิดและคิดว่าคนร้ายไม่มีอาวุธ เพราะปกติลูกชายเป็นคนฉลาดหลักแหลม ตัดสินใจได้ดี แต่ก็มาพลาดจนได้ ตนได้ฟังจากเพื่อนตำรวจเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าน้องโอมถูกยิงนัดแรก ได้ว่ายน้ำหนีและร้องขอชีวิตกับผู้ต้องหา บอกว่าขอชีวิตเถอะ อยากไปก็ไปเลย ไม่จับแล้ว แต่คนร้ายก็ไม่ฟังแล้วยังยิงซ้ำ ทำให้น้องโอมจมน้ำลงไปตรงนั้น การวิสามัญฯ ผู้ต้องหาเมื่อคืนนี้เป็นตัวอย่างกับโจรคนอื่นว่าอย่าคิดสู้ตำรวจ การติดตามจับผู้ต้องหารายนี้เป็นงานชิ้นสุดท้ายก่อนจะรอคำสั่งได้ย้ายมาประจำที่หนองคาย ส่วนจะให้ลูกสาวคนโตซึ่งเป็นพี่สาวของโอม ขณะนี้ทำงานธนาคารเข้ารับราชการตำรวจหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาพิจารณา
ด้านนางพัชรี มุทาพร มารดา กล่าวสั้นๆ ว่า ภูมิใจในตัวลูกชาย และเสียใจที่ลูกจะได้กลับมาอยู่กับแม่ กับครอบครัวในเร็วๆ นี้แล้วก็มาเสียชีวิตก่อน แต่ก็ดีใจที่ในชีวิตลูกผู้ชายคนหนึ่งได้เสียสละ ได้ทำในสิ่งที่กล้าหาญ
ขณะที่ ส.ต.ท.กฤษธนา สุพาณิชกร ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เมืองหนองคาย เพื่อนสนิท กล่าวว่า รู้จักกับโอมตั้งแต่อายุ 13 ปี เรียนชั้น ม.1 มาด้วยกัน พอจบ ม.ปลาย ก็ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย วันหนึ่งโอมมาชวนให้ไปสอบตำรวจด้วยกันก็สนใจและได้ติวหนังสือด้วยกันทุกคน พอสอบติดก็ยังคลุกคลีอยู่ด้วยกันเสมอ
“โอมเป็นคนน่ารัก เป็นเพื่อนที่ดี อุปนิสัยดี เป็นมิตรกับทุกคน เป็นที่รักของเพื่อนๆ เมื่อทราบข่าวที่เกิดขึ้นรู้สึกช็อค เพื่อนทุกคนช็อกกันไปหมด ภาวนาว่าแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น ไม่นึกว่าเพื่อนจะเสียชีวิต”
แต่ด้วยความเป็นตำรวจเหมือนกันก็เข้าใจและพยายามนึกว่าเหตุการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ทุกสัปดาห์ โอมจะกลับบ้านที่หนองคายมาหาครอบครัวและก็จะได้เจอเพื่อนๆ พูดคุย กินข้าวด้วยกันบ่อยๆ อยากให้เพื่อนไปสบาย