ตั้ง กก.สอบ ครูบุรีรัมย์ฉาวเรียกรับเงินสอบบรรจุครูผู้ช่วยครึ่งล้าน ผิดจริงโทษหนักถึงไล่ออก

บุรีรัมย์ - สพป.บุรีรัมย์เขต 4 ตั้ง กก. สืบหาข้อเท็จจริงครู ถูกกล่าวหาหลอกเรียกรับเงินครูอัตราจ้าง 5 คนๆละ 100,000 บาท อ้างช่วยเหลือสอบบรรจุครูผู้ช่วยได้ ให้เสร็จภายใน 15 วัน เร่งสรุปผลเสนอศึกษาธิการจังหวัด เพื่อตั้ง กก. สอบเอาผิดวินัยร้ายแรง หากพบกระทำผิดจริงโทษหนักถึงขั้นไล่ออก

วันนี้ (11 พ.ค.) จากกรณีที่มีผู้เสียหาย 5 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูอัตราจ้างได้แจ้งความดำเนินคดี และร้องให้เอาผิดทางวินัยกับ นายสิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่า ครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกเรียกรับเงินคนละ 200,000 บาท อ้างว่าจะสามารถช่วยเหลือให้สอบบรรจุเป็นพนักงานราชการ หรือครูผู้ช่วย ในสังกัด สพป.เขต 4 จังหวัดนครราชสีมาได้ โดยให้จ่ายเงินก่อนล่วงหน้าคนละ 100,000 บาท เป็นค่าดำเนินการหรือวิ่งเต้น หากได้รับการบรรจุให้จ่ายเพิ่มอีกคนละ 100,000 บาท

โดยผู้เสียหายทั้ง 5 คนได้หลงเชื่อจ่ายเงินให้กับครูคนดังกล่าวไปคนละ 100,000 บาท ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.2560 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปกว่า 6 เดือนแล้ว กลับไม่ได้มีการบรรจุจริงตามที่ครูคนดังกล่าวอ้าง เมื่อสอบถามก็พยามบ่ายเบี่ยง และทวงถามเงินคืนก็ขอเลื่อนอ้างโน้นอ้างนี้ สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับเหยื่อทั้ง 5 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว นั้น

ล่าสุดทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ในฐานะต้นสังกัด ได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยมีกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน จากนั้นจะพิจารณาผลการสืบข้อเท็จจริง ว่าเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง หากพฤติการณ์กระทำผิดไม่ร้ายแรงทางเขตฯ สามารถตั้งกรรมการสอบวินัยภายใน 90 วัน แต่หากพบมีข้อมูลหลักฐานว่ามีการกระทำผิดวินัยร้ายแรงจริง ทางเขตฯ จะสรุปเสนอศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาแต่งตั้งลงโทษทางวินัยตามขั้นตอน ซึ่งโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก ปลดออก

นายโสธร บุญเลิศ รองศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้สั่งให้ สพป.เขต 4 ซึ่งเป็นต้นสังกัดตั้งกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงครูที่ถูกกล่าวหาแล้ว หากผลการสืบหาข้อเท็จจริงได้ผลเป็นประการใด ให้ดำเนินการสอบวินัยตามขั้นตอนว่ามีการกระทำผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง แต่จะลงโทษวินัยขั้นไหนนั้นขึ้นอยู่ข้อมูลหลักฐานและพฤติการณ์กระทำผิด ยืนยันว่าทางต้นสังกัดจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน