บุรีรัมย์ - เผาแล้วศพพรานป่าบุรีรัมย์เสียชีวิตมีเงื่อนงำ หลังถูกเจ้าหน้าที่จับฐานร่วมพวกฆ่ากระทิงป่าดงใหญ่ ท่ามกลางความอาลัยของญาติ จากก่อนหน้านี้ได้เก็บศพไว้นานถึง 17 วันเพราะติดใจสาเหตุการตาย จนมีคำสั่งย้ายปลัด หน.ชุดจับกุมตามข้อเรียกร้องจึงยอมเผาศพ วอนหยุดใส่ร้ายชาวบ้านที่ออกมาเคลื่อนไหว
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่วัดบ้านโคกเพชร ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ทั้งญาติและชาวบ้านได้ร่วมกันประกอบพิธีฌาปนกิจศพของ นายจำนงค์ เคราะกิ่ง พรานป่าที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมฐานร่วมกับพวกก่อเหตุยิงกระทิงในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ จนสร้างความคลางแคลงใจให้แก่ญาติเกี่ยวกับสาเหตุการตาย เพราะแพทย์โรงพยาบาล 2 แห่งลงความเห็นตรงกันว่าม้ามแตก และเสียเลือดมาก จนมีการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตายและญาติ พร้อมทั้งประกาศจะไม่เผาศพจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม โดยญาติได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่บ้านตั้งแต่วันเสียชีวิตเป็นเวลา 17 วัน แต่หลังจากที่ทางจังหวัดฯ ได้เซ็นหนังสือคำสั่งย้ายนายราเยส ราย ปลัดอาวุโส อ.โนนดินแดง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งเป็นชุดจับกุม ย้ายออกจากพื้นที่ไปช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดจนกว่าจะสิ้นสุดคดี ตามที่ชาวบ้านเรียกร้องเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำคดีดังกล่าวอย่างเต็มที่ และให้ความเป็นธรรมแก่ญาติผู้เสียชีวิตด้วย วันนี้ญาติจึงยอมฌาปนกิจศพนายจำนงค์ และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น
โดยพิธีฌาปนกิจศพนายจำนงค์ในวันนี้ ได้มี น.ส.สุนันท์ สุขเจริญ นายอำเภอโนนดินแดง เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากที่ว่าการอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และชาวบ้านมาร่วมงานและแสดงความอาลัยจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้าของญาติ
นายบรรทิศ บุญล้อม บอกว่า ที่ทางญาติตัดสินใจฌาปนกิจศพนายจำนงค์ในวันนี้เพราะทางอำเภอได้ทำตามข้อเรียกร้อง โดยการเสนอย้ายปลัดหัวหน้าชุดจับกุมออกจากพื้นที่ เพื่อให้กระบวนการสอบสวนได้เดินหน้าอย่างเต็มที่และตรงไปตรงมา ทั้งทำให้ญาติเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น ส่วนผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็พร้อมยอมรับ หากมีหลักฐานประกอบยืนยันชัดเจน
นายบรรทิศกล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตนและชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายจำนงค์ ผู้ตายที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ได้มีคนบางกลุ่มพยายามใส่ร้ายกล่าวหาทั้งตนและชาวบ้านว่ามีคนที่เสียประโยชน์จากธุรกิจมืด ทั้งไม้เถื่อน ยาเสพติดหนุนหลังให้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อดิสเครดิตเจ้าหน้าที่บางคน และใส่ร้ายชาวบ้านให้ได้รับความเสียหายผ่านทางโลกโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งที่เป็นการเรียกร้องตามสิทธิของญาติผู้เสียชีวิตตามข้อมูลหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งหากไม่หยุดการกระทำดังกล่าวชาวบ้านจะปกป้องสิทธิของตัวเอง และจะนำหลักฐานออกมาเปิดเผยต่อสังคมว่าแท้ที่จริงใครกันแน่ที่กระทำผิดกฎหมาย