ศรีสะเกษ - เสียหายหนักมาก! พายุฤดูร้อนถล่มศรีสะเกษ 9 อำเภอ บ้านเรือนประชาชน อาคารเรียนโรงเรียนพังยับเยิน นักเรียนกว่า 100 คนไร้ที่เรียนหนังสือ ผู้ว่าฯ เร่งแก้ไขปัญหาช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนบ้านหนองอิไทย ต.สุขสวัสดิ์ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ถูกลมพายุฤดูร้อนพัดถล่มได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยอาคารเรียนแบบ ศก 04 ขนาด 2 ชั้น 6 ห้องเรียน ถูกพายุพัดพังยับเยิน หลังคาโดนลมพัดหอบลงมากองบริเวณสนามหน้าโรงเรียนทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอนและเครื่องคอมพิวเตอร์กว่า 20 เครื่องเปียกน้ำฝนได้รับความเสียหาย เนื่องจากฝ้าเพดานพังลงมากองกับพื้นห้องชั้นบน ทำให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารวมทั้งเอกสารการจัดการเรียนการสอนเปียกน้ำฝนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นายไพบูลย์ ศรีสุธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการสำรวจความเสียหายของโรงเรียน โดยได้สั่งการให้ นายสมยศ โชคเหมาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองอิไทย ได้ทำการสำรวจความเสียหายทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะต้องสร้างอาคารหลังใหม่ทดแทนเนื่องจากค่าเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท อีกทั้งเป็นอาคารหลังเก่ามีอายุการใช้งานมานานกว่า 27 ปีแล้ว ทำให้ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมให้ใช้การเหมือนเดิมได้ และขณะนี้ใกล้จะเปิดภาคเรียนแล้ว ทำให้ นักเรียนประมาณ 100 คนไม่มีที่เรียนเพียงพอ ทางโรงเรียนต้องหาที่เรียนให้เด็กนักเรียน.อาจต้องใช้ศาลาวัดของวัดหนองอิไทย ซึ่งอยู่ใกล้กันให้เป็นที่เรียนหนังสือของเด็กนักเรียนชั่วคราว
นายภูริต อภิรักษ์วรการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสุขสวัสดิ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น. ของวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาได้เกิดลมพายุฤดูร้อนพัดโหมกระหน่ำในเขตอำเภอไพรบึง ซึ่งลมกระโชกแรงมาก ทำให้บ้านเรือนประชาชน คอกสัตว์ และโรงเรียน ได้รับความเสียหาย โดยชาวบ้านในเขต ต.สุขสวัสดิ์ บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 27 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง ต.โนนปูน บ้านเสียหาย 10 หลังคาเรือน และ ต.สำโรงพลัน ฟ้าผ่าวัวตาย 1 ตัว ซึ่งขณะนี้ นายปราจิต แก้วลา นายอำเภอไพรบึง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่จากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบวาตภัยในครั้งนี้แล้ว
ทางด้าน นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการที่ได้เกิดลมพายุฤดูร้อนในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2561 ถึงปัจจุบัน ปรากฏว่ามีพื้นที่ประสบความเสียหายรวม 9 อำเภอ 21 ตำบล 43 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 109 ครัวเรือน แยกเป็น บ้านเสียหายบางส่วน 91 หลัง คอกสัตว์ ยุ้งข้าว 14 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรซึ่งเป็นสวนทุเรียนเสียหาย 6 ไร่ ดังนี้
อ.กันทรลักษ์ ม.1, 15 และ ม.17 ต.กระแซง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 6 หลัง ถนน ม.15 ได้รับความเสียหาย 1 เส้นทาง, อ.ขุนหาญ ม.14 ต.พราน สวนทุเรียนได้รับความเสียหาย 6 ไร่ 159 ต้น โค่นล้ม 3 ต้น และผลทุเรียนหล่นประมาณ 3 ตัน (3), อ.เมืองศรีสะเกษ ม. 5 ต.โพนค้อ และ ม.11 ต.จาน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2 หลัง คอกสัตว์ 5 หลัง ยุ้งข้าว 2 หลัง, อ.ขุขันธ์ ม.6, 10, 13, 17 ต.สะเดาใหญ่ ม.1 ต.ห้วยใต้ ม.4 ต.ห้วยเหนือ ม.1, 5, 6, 9 ต.ดองกำเม็ด ม.7 ต.ตะเคียน ม.10 ต.ลมศักดิ์ และ ม.8 ต.หนองฉลอง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 17 หลัง ยุ้งข้าว 4 หลัง
อ.ปรางค์กู่ ม.5 ต.กู่ บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 5 หลัง ยุ้งข้าว 1 หลัง, อ.ภูสิงห์ ม.15, 16 ต.ห้วยตึ๊กชู ม.5 ต.ห้วยตามอญ ม.9 ต.โคกตาล ม.6 ต.ไพรพัฒนา บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 15 หลัง, อ.ไพรบึง ม.11, 14 ต.ไพรบึง, ต.สุขสวัสดิ์, ต.โนนปูน และ ต.สำโรงพลัน บ้านเรือนเสียหาย 41 หลัง ร.ร.บ้านหนองอิไทย 1 แห่ง ฟ้าผ่าวัวตาย 1 ตัว, อ.โนนคูณ ม.3, 5, 10 บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2 หลัง โรงเรือน 2 หลัง และ อ.พยุห์ ม.1 ต.หนองค้า บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 3 หลัง ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท้องที่ประสบวาตภัยเข้าสำรวจความเสียหายแล้ว ซึ่งตนจะเดินทางไปตรวจสอบความเสียหายด้วยตนเองเพื่อจะได้หาทางให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป