xs
xsm
sm
md
lg

ตะลึง! ชาวประมงเขาเต่าโชว์ภาพฉลามหัวบาตรตัวใหญ่ติดอวน-ดีเดย์พรุ่งนี้วางทุ่นไข่ปลาที่หาดทรายน้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - นักวิชาการ ทช.ลงพื้นที่เก็บข้อมูลฉลาม ตะลึง! ชาวประมงเขาเต่าโชว์ภาพฉลามหัวบาตรตัวใหญ่ที่ติดอวน ดีเดย์วางทุ่นไข่ปลาทดลองพรุ่งนี้ที่หาดทรายน้อย

วันนี้ (24 เม.ย.) นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผอ.สำงานบริหารพื้นที่จัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร ) และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ลงพื้นที่พบชาวประมงพื้นบ้าน ในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเก็บข้อมูลการพบเห็นฉลามจากชาวประมง เพื่อนำข้อมูลจากชาวประมงไปรวบรวมข้อมูลการสำรวจฉลามของ นักวิชาการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร )นำเสนอต่อคณะกรรมการการศึกษาวิจัยฉลาม

ซึ่งมี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นประธาน และมีนายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)หัวหน้าคณะ พร้อมด้วย ผู้ทรงวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านฉลาม และนักวิชาการจากหลายหน่วยงานร่วมเป็นคณะทำงาน โดยการเก็บข้อมูลครั้งนี้ นักวิชาการได้ได้นำแผนที่ รูปถ่ายฉลาม และแบบสอบถาม ไปสอบถามข้อมูลจากชาวประมงใน 3 อำเภอ

ทั้งนี้ นายปราโมทย์ สุวรรณชาติ ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านเขาเต่า ตลอดจนชาวประมงพื้นบ้านหาดเขาเต่า ระบุตรงกันว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปี พบเห็นฉลามว่ายหากินในท้องทะเลแห่งนี้ ห่างจากฝั่งไม่เกิน 5 กิโลเมตร โดยฉลามที่พบยืนยันได้ว่าเป็นฉลามหัวบาตร และฉลามครีบดำ

แต่ในระยะ 5 ปีหลัง พบเห็นฉลามหัวบาตรมาว่ายหากินปลาเล็ก โดยเฉพาะปลากระบอกบริเวณชายฝั่งตั้งแต่หาดหน้าวัดเขาเต่า วัดถ้ำเขาเต่า หาดทรายน้อย และหาดทรายใหญ่มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพระราชฐานห้ามทำการประมง ทำให้มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งสภาพพื้นที่มีทั้งโขดหินใต้น้ำและแนวโขดหินรอยต่อกับหาดทรายน้อย ถือว่าบริเวณพื้นที่หาดทรายใหญ่เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ โดยฉลามหัวบาตรที่พบจะมีความยาว 1-2.5 เมตร

นอกจากนั้นยังได้นำภาพที่ฉลามหัวบาตรติดอวนปลากระเบนขึ้นมาโชว์ให้เจ้าหน้าที่กรม ทช. ที่ลงพื้นที่มาพบปะทำการเก็บข้อมูล รวมทั้งสื่อมวลชน ซึ่งเป็นมื่อปี 2560 ที่ผ่านมายอมรับว่ามีฉลามว่ายเข้ามาติดอวนปลากระเบน น้ำหนักประมาณ 40-50 กิโลกรัมจำนวน 2 ตัว ได้สร้างความตะลึงให้กับเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก

โดยชาวประมงพื้นบ้านในแถบนี้และฉลามหัวบาตร อยู่ร่วมกันมาโดยตลอด เมื่อพบเห็นฉลามหัวบาตรมันจะว่ายหนีเรือ ไม่เข้ามาทำร้ายคน แต่อย่างไรก็ตามการจุดวางทุ่นและวางตาข่ายที่บริเวณหาดทรายน้อยก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ซึ่งในปัจจุบันเชื่อว่าฉลามหัวบาตร ที่อาศัยว่ายหากินอยู่แถบนี้น่าจะมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีการผสมพันธุ์และออกลูกรวมทั้งพื้นที่ก็มีความสมบูรณ์ ดังนั้นเห็นว่ากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) คงต้องมีการศึกษาและวิจัยฉลามในพื้นที่แถบนี้ต่อไป เพื่อให้ได้ข้อมูลและสถานะของประขากรฝูงฉลามหัวบาตร เหมือนกับที่มีการสำรวจฉลามวาฬ และมีการตั้งชื่อ

นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผอ.สำงานบริหารพื้นที่จัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี กล่าวว่า วันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลการพบเห็นฉลามใน 3 พื้นที่ โดยในส่วนของชาวประมงพื้นที่ชายฝั่งทะเลเขาเต่า ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจ เรื่องการจัดเวทีระดมความคิดเห็นจากภาคประชาชนในพื้นที่ เรื่องการวางทุ่นตาข่ายป้องกันลามในวันที่ 25 เมษายน 2561 ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านเขาเต่าในช่วงเย็น

และจะมีการการวางทุ่นไข่ปลาทดลองหาดทรายน้อย เพื่อเป็นแนวจำลองเป็นตัวอย่างก่อนการติดตั้งทุ่นตาข่าย ประชาชนสามารถไปดูตัวอย่างได้ และหากมีข้อสงสัย ข้อชี้แนะก็สามารถนำมาเสนอได้เช่นกัน

สำหรับทุ่นตาข่ายที่จะนำมาติดตั้งที่หาดทรายน้อย ผลิตจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ สีดำ ซึ่งมีความแข็งแรง เป็นเส้นใยกระด้าง ซึ่งจะไม่ติดตัวปลา เมื่อปลามาสัมผัสตาข่ายจะไม่ติดตาข่าย โดยขนาดของตาข่ายจะมีขนาดกว้าง 2.5 นิ้ว ซึ่งปลาเล็กสามารถว่ายลอดผ่านได้ สำหรับตาข่ายลักษณะเช่นนี้เคยติดตั้งที่หาดละไม เกาะสมุย ซึ่งมีการการดำน้ำสำรวจบำรุงตาข่าย ก็ไม่พบปลาติดตาข่าย และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศหาดทรายน้อย

ในส่วนของการติดตั้งตาข่าย จะติดตั้งขนานแนวชายหาดทรายน้อย และตั้งฉากขนานออกไปประมาณ 50 เมตร ที่ความลึกประมาณ 3 เมตร บริเวณโขดหินจะเว้นไว้ระยะไว้เพื่อเป็นแหล่งหากินของสัตว์น้ำ และติดป้ายห้ามเล่นน้ำโดยเด็ดขาด

โดยความลึกของตาข่ายอาจจะสูง ประมาณ 5 เมตร เผื่อระดับน้ำขึ้นน้ำลง สามารถกันได้ทั้งปลาฉลาม และแมงกระพรุน และจะมีการบำรุงรักษาเป็นระยะ โดยในส่วนของช่วงมรสุมอาจจะต้องเก็บตาข่ายขึ้นมาเพื่อป้องกันการถูกพายุซัดตาข่ายขึ้นมาเสียหาย และจะต้องติดตั้งป้านประกาศเตือนห้ามเล่นน้ำ ทั้งหาดเขาเต่า และหาดทรายน้อย เป็นต้น

ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหาดทรายน้อย บ้านเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์ นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ ได้ช่วยกันขนทุ่นไข่ปลาพร้อมอุปกรณ์มายังหาดทรายน้อย เพื่อมาเตรียมทดลองติดตั้งบนหาดทรายน้อยในวันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) เพื่อหาพิกัดที่เหมาะสม ก่อนเตรียมติดตั้งทุ่นกั้นฉลามที่แรกของประเทศไทย

ซึ่งกำลังเร่งผลิตทุ่นตาข่ายกั้นฉลาม โดยผลิตด้วยใยโพลีเอสเตอร์ สำหรับผลิตเป็นตัวอวนตาข่ายกั้นฉลาม เป็นใยที่มีความแข็งแรง เนื้ออวนกระด้างไม่ติดตัวสัตว์น้ำ ขนาดตาอวน 2.5 นิ้ว ส่วนโพลีเอททีลีนสำหรับผลิตเป็นตัวทุ่นไข่ปลาพยุงอวนใช้ระบุพิกัด รวมถึงแท่นยึด สมอทราย ฯ ที่กำลังเร่งผลิตอย่างเต็มที่เพื่อให้พร้อมติดตั้งราวต้นเดือนพฤษภาคมนี้

นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ได้นำทุ่นไข่ปลาความยาว 320 เมตร พร้อมฐานยึดขนาดนำหนักชุดละ 60 กิโล จำนวน 20 ชุด ที่จะยึดกับแนวทุ่นไข่ปลา

โดยในวันพรุ่งนี้ทั้งเจ้าหน้าที่ของทั้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าที่งานเทศกิจเทศบาลเมืองหัวหิน และกำลังทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี และชาวประมงพื้นบ้านเขาเต่า พร้อมเรืออีก 3 ลำ จะช่วยกันดำเนินการเริ่มทดลองวางโดยยื่นเป็นแขนไปในทะเลข้างละ 50 เมตร วางยาวขนานไปกับแนวชายหาด 200 เมตร ที่ระดับความลึกของน้ำประมาณ 3 เมตร

เพื่อหาพิกัดหรือจุดในการติดตั้งที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมกับสภาพชายหาด พื้นที่ใต้น้ำที่บางจุดมีลักษณะเป็นหาดตัดมีความลึก ไม่ลาดเอียงตามธรรมชาติ อาจต้องเพิ่มความยาวเชือก หรือความกว้างของเนื้ออวนตาข่าย และจะต้องเว้นแนวโขดหินเพื่อไม่ให้รบกวนเส้นทางหากินของฉลามหัวบาตร

โดยช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ก็จะมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนชาวบ้านเขาเต่า ชาวบ้านหาดทรายน้อย ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และใกล้เคียง ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านเขาเต่า เพื่อปรับความเหมาะสมของอวนกั้นตาข่าย ให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดและไม่กระทบต่อวงจรชีวิตของฉลามหัวบาตรด้วยเช่นกัน






กำลังโหลดความคิดเห็น