ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.หนองปรือ รวบพนักงานคัดแยกสินค้า “เคอรี่” ย่องยกเซฟบริษัท ฉกเงินสดเกือบ 3 แสนบาทหนี อ้างทำเพราะหมั่นไส้ ถูกใช้งานหนัก เผยนำเงินไปใช้เที่ยวเตร่
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (19 เม.ย.) พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายไชยา หรือโย เจ๊ะมะ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลางเป็นเงินสดจำนวน 181,770 บาท, แหวนทองคำขาวมูลค่า 14,000 บาท ,ตู้เซฟสีเขียวขนาด 50x50 เซ็นติเมตร จำนวน 1 ตู้ ,เสื้อคลุมสีเขียว, กางเกงขายาวสีดำ ,อุปกรณ์การงัดแงะ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สีแดง-เทา หมายเลขทะเบียน ขกฉ 874 พระนครศรีอยุธยา ที่ใช้ในการก่อเหตุเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวบได้รับแจ้งจาก น.ส.สุทธิษา สุทธิวารี อายุ 23 ปี ผู้จัดการบริษัท เคอรี่เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ริมถนนสาย 36 ข้างปั๊มน้ำมันซัสโก้ ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยตู้เซฟที่ภายในมีเงินสดประมาณ 288,823 บาท ภายในสำนักงานฯหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนพบว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.50 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อยืดมีเสื้อคลุมสีดำทับ นุ่งกางเกงขายาว สวมหมวกแก๊ป แอบเข้ามาภายในสำนักงาน ก่อนใช้รถโฟล์คลิฟท์ พุ่งชนตู้เซฟอย่างแรงเพื่อให้ตู้เปิดออกแต่ไม่สามารถเปิดได้ จึงยกตู้เซฟออกจากโกดังไป
จากการตรวจสอบรูปพรรณของคนร้ายพบว่ามีลักษณะคล้าย นายไชยา หรือโย พนักงานแผนกคัดแยกสินค้าของบริษัท จึงติดตามจับกุมตัวได้ที่ห้องแถวเลขที่ 66/13 ม. 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งจากการตรวจค้นในตัวพบกระเป๋าคาดเอวที่มีเงินสดจำนวนมาก และอีกส่วนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ไว้ในท่อระบายน้ำ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นายไชยา ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุขโมยตู้เซฟของบริษัทฯจริง เพราะไม่พอใจที่ถูกใช้งานหนัก ส่วนเงินที่ได้นำไปใช้เที่ยวเตร่ และจากการตรวจสอบประวัติทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติดเมื่อปี 2553 และข้อหาเสพยาเสพติดที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อปี 2554
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้างในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือเข้าช่องทางซึ่ง ซึ่งผู้เป็นใจเปิดไว้ให้หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นการจับกุมและข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์โดยผิดกฎหมาย” ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
