ศูนย์ข่าวศรีราชา -บิ๊กบอสเครือสหพัฒน์มั่นใจปี 61 ภาพรวมการลงทุน เศรษฐกิจไปได้สวย โดยเฉพาะสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่จะยังเป็นที่พึ่งให้แก่ผู้ประกอบการ แรงงาน และชุมชนในพื้นที่ แม้ปัญหาการปิดทางเข้าออกถนนมอเตอร์เวย สาย 7 (ชลบุรี -พัทยา) จะสร้างปัญหาด้านการขนส่งให้แก่เจ้าของโรงงานมากมาย รวมทั้งยอดขายในร้าน Thailand Best เหตุนักท่องเที่ยวหาทางเข้ามาชอปปิ้งไม่ได้ เผยขณะนี้ได้เชิญนักลงทุนใหม่ที่ใช้นวัตกรรมชั้นเยี่ยมเข้าลงทุนในพื้นที่เพิ่ม เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีคู่การปรับปรุงเทคโนโลยีในโรงงานที่มีอยู่เดิม
เมื่อเร็วๆ นี้ นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เปิดเผยถึงแนวทางการยกระดับเทคโลยีภายในโรงงานอุตสาหกรรม และภาคการลงทุนต่างๆ ที่เข้ามาลงทุนในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ว่า นอกจากจะเน้นการสนับสนุนให้ผู้ลงทุนใหม่ หรือเชิญกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้นวัตกรรมด้านการผลิตที่ทันสมัย ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่เพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน ที่สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์มีโรงงานต่างๆ อยู่ในพื้นที่มากกว่า 80 โรงงานแล้ว
ในส่วนโรงงานอุตสาหกรรมเดิมที่ผลิตสินค้าต่างๆ มานาน โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในกลุ่มสหพัฒน์ ก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตอย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มไลออน ซึ่งผลิตผงซักฟอก ครีมอาบน้ำ ยาสีฟัน ขณะนี้ได้ใช้ระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ และใช้หุ่นยนต์เข้าทำงานเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน และการควบคุมคุณภาพสินค้าไปในตัว จึงทำให้คุณภาพสินค้าของกลุ่มดียิ่งขึ้นแต่ราคาจำหน่ายเท่าเดิม รวมทั้งการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการกำจัดน้ำเสีย และกลิ่นให้สิ้นสุดกระบวนการภายในโรงงาน
“ขณะเดียวกัน ก็พยายามทำให้ค่าจ้างแรงงานของพนักงานดีขึ้น ซึ่งในวันนี้กลุ่มทุนใหญ่อย่าง ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ก็อยู่กับเรามานานถึง 30 ปีแล้ว และกำลังจะมีการขยายการลงทุนอีกหลายพันล้าน หลังยอดขายของเขาเติบโตขึ้นกว่าแสนล้านบาท จึงเชื่อว่าในวันนี้เครือสหพัฒน์มาถูกทางแล้ว และเราได้ฝังตัวอยู่ในจุดที่เหมาะสม ดังนั้น ความสัมพันธ์กับ 14 ชุมชนโดยรอบ รวมทั้งเครือข่ายต่างๆ งานด้านศาสนา การศึกษาที่เราให้การสนับสนุนอยู่จะไม่มีคำว่าน้อยลง เพราะการเข้ามาของเราตั้งแต่วันแรกจนถึงกว่า 40 ปี ในวันนี้ก็เพื่อสนับสนุนชุมชน และเลี้ยงชุมชน รวมทั้งการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดโรงงานดีๆ ในย่านศรีราชา ซึ่งก็จะทำให้เยาวชน และคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ ด้วย”
และในปี 2561 เครือสหพัฒน์มีเป้าหมายที่จะขยายภาคการผลิต เฉพะในสวนอุตสหากรรมเครือสหพัฒน์ ให้เติบโตขึ้นไม่น้อยกว่าปีก่อนๆ เพราะทั้งภาคการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกและขายภายในประเทศ หลังแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศมีทิศทางขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ปัจจุบัน ผู้ผลิตสินค้าอาจได้รับผลกระทบจากรูปแบบการขายในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปก็ตาม โดยโรงงานที่ผลิตสินค้าก็มีความพยายามที่จะลดต้นทุนการผลิต ด้วยการปรับรูปแบบการขายในลักษณะออนไลน์เพื่อให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน
“ตัวเลขการส่งออกของเราในปี 60 ดีขึ้น แม้ค่าเงินจะแข่งขึ้นจาก 34 บาท เหลือเพียง 31 บาทก็ตาม ซึ่งขณะที่ตลาดต่างประเทศของเราอยู่ที่ประมาณ 20% ส่วนการผลิตเพื่อขายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 80% ซึ่งในส่วนนี้แค่ได้กำไรเพียง 5% ผู้ผลิตก็ดีใจแล้ว เพราะต้องแบกรับต่อการขาดทุนเรื่องค่าเงินถึง 10% แต่อย่างไรก็ดี โดยรวมแล้วแนวโน้มการส่งออกในปีนี้ก็จะดีขึ้นตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังไปได้สวย แม้ปัญหาการปิดทางเข้าออกถนนมอเตอร์เวย์จะทำให้การเข้าถึงของลูกค้าในส่วนร้าน Thailand Best จะลดลง เพราะทั้งนักท่องเที่ยว และลูกค้าหาทางเข้ามาถึงเราไม่ได้”
นายวิชัย ยังเผยอีกว่า เนื่องจากการลงทุนของเครือสหพัฒน์เป็นการลงทุนที่มีหนี้น้อย จึงทำให้การเติบโตทางธุรกิจเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป ในวันนี้จึงเห็นได้ว่าต้นไม้ทุกต้นในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ เขียวขจีอยู่ตลอดเวลา ความเป็นอยู่ของพนักงานก็เป็นไปแบบสบายๆ เพราะเครือสหพัฒน์มีทุนสำรองในการดำเนินธุรกิจ แม้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไรก็ตาม
“เรามุ่งมั่นว่าจะเป็นที่หนึ่งทั้งในธุรกิจ และในใจผู้บริโภค และชุมชนที่อยู่รายล้อม โดยเครือสหพัฒน์จะยืนหยัดในการเป็นที่พึ่งของคนในพื้นที่ เพราะที่ผ่านมา เราทำนิคมฯ ให้เป็นสวนอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับชุมชน จึงเห็นได้ว่าในทุกเย็นจะมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาออกกำลังกายในพื้นที่รันเวย์ของสนามบินเครือสหพัฒน์ ดังนั้น การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จึงเป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว” นายวิชัย กล่าว
