ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า เผยภาพฉลามเพื่อต้องการเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยว และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ แต่ไม่ได้ยืนยันว่าหนุ่มนอร์เวย์ถูกฉลามกัดหรือไม่ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องไปตรวจสอบเอง
จากกรณีโลกโซเชียลได้มีการแชร์ภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชาวนอร์เวย์ ซึ่งลงเล่นน้ำที่หาดทรายน้อย หมู่บ้านเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาเป็นบาดแผลขนาดใหญ่มีเลือดไหล ชาวบ้านได้ช่วยกันปฐมพยาบาล และนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยในคลิปดังกล่าวระบุว่า นักท่องเที่ยวรายนี้ได้รับบาดเจ็บจากถูกฉลามกัด สร้างความตกใจให้แก่นักท่องเที่ยว และเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่าจะมีกระแสอีกด้านออกมาให้ความเห็นว่า ไม่น่าจะถูกฉลามกัด นักท่องเที่ยวรายนี้อาจจะถูกหอยเพรียง ที่เกาะอยู่ตามโขดหินบาดขาขณะกระโดดเล่นน้ำก็เป็นไปได้
ล่าสุด มีการโพสต์ภาพนิ่ง และคลิปฉลามแหวกว่ายอยู่บริเวณหน้าวัดถ้ำเขาเต่าในโลกโซเชียล ทำให้เป็นการตอกย้ำกรณีที่ว่านักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ถูกฉลามกัดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหาดทรายน้อย
ด้าน พระครูบุญญาภิราม เจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า อ.หัวหิน เผยว่า คลิปวิดีโอ และภาพนิ่งดังกล่าวนั้นอาตมาเป็นผู้ถ่ายเอาไว้ได้เมื่อช่วงเย็นวันนี้เอง (16 เม.ย.) บริเวณหน้าวัดถ้ำเขาเต่า และที่นำคลิปที่บันทึกไว้ออกมาโพสต์เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ โดยเฉพาะกรมประมง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยว
โดยเมื่อช่วงระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา พบเห็นฉลามซึ่งไม่ทราบว่าเป็นชนิดอะไรว่ายเข้ามาหากินบริเวณด้านหน้าวัดถ้ำเขาเต่าบ่อยครั้งขึ้น แต่ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งเมื่อทราบข่าวว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเล่นน้ำที่หาดทรายน้อย และโดนสัตว์ทะเลกัดจึงเกิดความสงสัย วันนี้จึงมาเฝ้าดูที่ด้านข้างวัดถ้ำเขาเต่า ก็พบเห็นฉลามหลายตัวแหวกว่ายหากินอยู่จึงได้ถ่ายไว้ และนำคลิปมาโพสต์เพื่อเตือนให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำระวังเท่านั้น
ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจะโดนฉลามกัดหรือไม่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบต้องไปตรวจสอบ และหากเป็นจริงก็ต้องหาแนวทางป้องกันต่อไป
ขณะที่ นายพิเชษ หวังกาย ชาวประมงเขาเต่า อ.หัวหิน กล่าวว่า เมื่อก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ได้ออกเรือ และมีการจับฉลามหัวบาตร ติดอวนปลากระเบนมาได้ 2 ตัว น้ำนักประมาณ 30-40 กิโลกรัม บริเวณแถบนี้ และหลังจากนั้นเป็นต้นมาไม่ได้มีการออกอวนปลากระเบนอีกจนทุกวันนี้ และมาทราบว่านักท่องเที่ยวมาโดนฉลามกัดที่หาดทรายน้อย ซึ่งเมื่อก่อนจะมีฉลามหัวบาตรอาศัยอยู่แถบนี้ คาดว่าหากินอยู่บริเวณหาดเขาเต่า-หาดทรายใหญ่-หาดทรายน้อย วนเวียนไปมา ซึ่งพื้นที่แถบนี้เป็นเขตอนุรักษ์ โดยเฉพาะหาดทรายใหญ่ จนกระทั่งมาทราบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถูกฉลามกัดรู้สึกตกใจ และยิ่งเมื่อพบว่ามีการถ่ายคลิปฉลามไว้ได้ ก็เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องมาตรวจสอบว่าเป็นฉลามอะไร
ด้าน นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 แล้ว ซึ่งขณะนี้เรายังไม่สามารถระบุได้ว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บที่ขา ขณะลงเล่นน้ำทะเลนั้นเกิดจากของมีคมที่อยู่ในทะเล หรือเกิดจากสัตว์ทะเลกัดหรือไม่ โดยทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงต้องมีการตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเรือเร็ว และนักวิชาการออกไปตรวจสอบตั้งแต่จุดหน้าวัดถ้ำเขาเต่า หาดเขาเต่า หาดทรายใหญ่ หาดทรายน้อย หาดหัวหิน เพื่อหาข้อมูลเรื่องสัตว์ทะเลบางชนิดโดยเฉพาะที่มีการเผยแพร่ภาพฉลามที่บริเวณหน้าวัดถ้ำเขาเต่า ซึ่งที่ผ่านมา ในบริเวณพื้นที่อ่าวไทยในหลายปีที่ผ่านมายังไม่มีการพบฉลามกัดนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ด้าน นายอำนาจ ฟักเถื่อน ประมงอำเภอหัวหิน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเพิ่งทราบจากสื่อมวลชน และได้สอบถามจากชาวประมงแถวเขาเต่าในเบื้องต้น และเท่าที่ทราบภาพที่ได้รับมาจากชาวประมงที่ถ่ายไว้เมื่อ 1 ปีที่แล้วนั้นเป็นฉลาม ซึ่งขณะนี้ในโลกโซเชียลที่มีการเผยแพร่ว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดนฉลามกัดนั้น ซึ่งได้ส่งภาพที่ทางวัดถ้ำเขาเต่าบันทึกไว้ได้ และที่ชาวประมงจับฉลามขึ้นมาได้เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ส่งให้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่าเป็นฉลามชนิดใด ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปพบกับแพทย์โรงพยาบาลที่นักท่องเที่ยวเข้ามารับการรักษาต่อไป ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าบาดแผลของนักท่องเที่ยวเกิดจากสาเหตุอะไร