ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง กำหนดมาตรการขนส่งสินค้าในท่าเรือแหลมฉบังช่วงสงกรานต์ เพื่อเป็นการป้องกันการอุบัติเหตุตามนโยบายรัฐบาล
ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว ทำให้มีผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก และที่ผ่านมา ก็จะมีรายงานการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัย และเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ
รวมทั้งลดการจราจรติดขัดบนท้องถนนให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม ท่องเที่ยว และไปสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตามที่รัฐบาล และหน่วยงานราชการ รวมทั้งรัฐวิสาหกิจมีนโยบายเพิ่มความปลอดภัยการใช้ถนนในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ 2561 นั้น
ท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย พิจารณาแล้วจึงได้ประกาศกำหนดมาตรการการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง ช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ 2561 ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2561 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นสุดเทศกาล โดยขอความร่วมมือ ดังนี้
1.ในการขนส่งสินค้าขาเข้าและขาออกทุกประเภททางถนน ดำเนินการดังนี้ ตรวจสอบสมรรถนะของรถ และผู้ขับชี่ และทำการขนส่งด้วยความระมัดระวังให้เกิดความปลอดภัยเป็นพิเศษ สำหรับสินค้าอันตรายขาเข้า ก่อนการขนส่งให้ตรวจสอบความพร้อมของรถขนส่ง และพนักงานขับรถขนส่งเพื่อให้การขนส่งสินค้าอันตรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย
2.หากต้องการคำแนะนำให้ติดต่อกับ กองการท่า สำนักปฏิบัติการ ท่าเรือแหลมฉบัง โทรศัพท์ 0-3840-9233, 0-3840-9255, 0-3840-9243, 0-3840-9292 ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2561 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นสุดเทศกาล
ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโครงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าเรือแหลมฉบังเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร ขณะนี้โครงการก่อสร้างต่างๆ เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยโครงการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โครงการบริเวณภายในการท่าเรือ เช่น การขยายถนนเดิมจาก 4 ช่อง เป็น 6 ช่อง โดยเพิ่มฝั่งละ 1 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 4.6 กิโลเมตร งานก่อสร้างสะพานข้ามแยก และงานก่อสร้างอาคารด่านเก็บเงินประตูตรวจสอบสินค้า 1 เพิ่มเติม จำนวน 4 หลัง (14 ช่อง) การก่อสร้างอาคารด่านเก็บเงินประตูตรวจสอบสินค้า 3 เพิ่มเติม จำนวน 2 หลัง (6 ช่อง)
สำหรับโครงการภายนอกการท่าเรือแหลมฉบัง ประกอบด้วย การขยายถนนเดิมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร งานก่อสร้างสะพานกลับรถ งานก่อสร้างสะพานข้ามแยก และงานติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจร โดยทั้งภายใน และภายนอกการท่าเรือ ซึ่งขณะนี้แล้วเสร็จแล้ว และได้มีการตรวจรับงานไปแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ท่าเรือแหลมฉบังได้ทำการเปิดให้ใช้ประตูตรวจสอบสินค้า 1 แบบเต็มรูปแบบ 100% โดยเปิดให้บริการทั้ง 14 ช่อง ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนั้น ทางการท่าเรือแหลมฉบังยังมีโครงการการจองเวลาการส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อการส่งออก โดยจะให้ผู้ประกอบการสามารถระบุระยะเวลาในการส่งตู้สินค้า ซึ่งคนขับรถไม่ต้องมาเสียเวลารอแต่อย่างใด และผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ขณะนี้ได้ว่าจ้างบริษัททำการศึกษาโครงการนี้ ซึ่งโครงการต่างๆ เป็นการแก้ไขปัญหาทางกายภาพ และทางการท่าเรือแหลมฉบัง ก็ต้องปรับปรุงด้านการบริหารจัดการให้ดีขึ้นต่อไป