บุรีรัมย์ - เผาแล้วศพยาย 73 ปี เหยื่อโจ๋ฆ่าข่มขืนทิ้งศพคาบ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของญาติ ขณะที่หญิงชราในหมู่บ้านต่างหวาดผวาหวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย เผยประวัติโจ๋โหด พ่อแม่เสียชีวิตอาศัยอยู่ปู่ย่าตั้งแต่ 3 ขวบ กลายเป็นเด็กมีปัญหาชอบลักเล็กขโมยน้อย กินเหล้า เสพยา เที่ยวเตร่ไปเรื่อย
วันนี้ (12 เม.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่พบศพนางแผด ยายวัย 73 ปี นอนเสียชีวิตในบ้านของตัวเอง เลขที่ 46 หมู่ 4 บ้านตะค้อ ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ในสภาพมีร่องรอยฟกช้ำตามใบหน้าและร่างกาย ทั้งพบเชือกไนลอนวางไว้บริเวณลำคอ จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบร่องรอยคล้ายถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจจึงนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาล จ.สุรินทร์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ และข่มขืน เหตุเกิดเวลาประมาณ 23.45 น.ของวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจ สภ.คูเมือง สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆ่ายายได้ เป็นเยาวชนชายอายุเพียง 17 ปี ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา ชิงทรัพย์ บุกรุกเคหสถานในยามวิกาล และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 ส่วนข้อหาข่มขืนต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกครั้ง และขณะนี้ถูกส่งไปควบคุมตัวที่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่อง นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพของยายวัย 73 ปี ที่วัดบ้านตะค้อ ต.พรสำราญ อ.คูเมืองแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องลูกหลาน โดยมี พ.ต.อ.เจตสฤษดิ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.คูเมือง เป็นประธานในพิธี
ทั้งนี้ ได้มีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพและแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านที่มาร่วมงานศพต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ไม่เคยเกิดในหมู่บ้านมาก่อน จึงสร้างความหวาดผวาให้ชาวบ้านโดยเฉพาะหญิงสูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพัง เพราะส่วนมากลูกหลานไปทำงานต่างจังหวัด
นางพลอย ใจงาม อายุ 58 ปี ชาวบ้านบ้านตะค้อ บอกว่า ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญแบบนี้ขึ้นในหมู่บ้าน และไม่คาดคิดว่าเยาวชนที่มีอายุเพียง 17 ปี และเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน จึงไม่คิดว่าจะมีจิตใจโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดผวาให้แก่ตนเองและหญิงสูงอายุในหมู่บ้าน เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก
ด้านนายบัวไล รอไธสง ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า เยาวชนที่ก่อเหตุฆ่ายายเสียชีวิตได้อาศัยอยู่กับปู่ย่าตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ 3 ขวบ พอโตมากลายเป็นเด็กมีปัญหาชอบลักเล็กขโมยน้อย ดื่มเหล้า เที่ยวเตร่กับกลุ่มเพื่อนไปเรื่อย ทั้งมีประวัติเคยเสพยาเสพติดด้วย และทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าขาวและเสพยากับเพื่อนก่อนจะไปก่อเหตุด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าสร้างความหวาดผวาให้คนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะหญิงสูงอายุที่อยู่ตามลำพังเพราะเกรงจะเกิดเหตุซ้ำรอยอีก ซึ่งทางผู้นำชุมชนจะได้ช่วยกันสอดส่องดูแลเข้มงวดมากขึ้น